แด่ … ศิษย์เก่าที่เราภูมิใจ
จากใจครูถึงศิษย์ จากวันที่เป็นเมล็ดน้อยๆเติบโตเป็นเภสัชกรที่เราภูมิใจ คงไม่มีอะไรที่จะทำให้อาจารย์มีความสุขไปมากกว่าการได้เห็นศิษย์ที่พวกเราอบรมสั่งสอนทั้งทางด้านวิชาชีพและจริยธรรม ได้ทำหน้าที่เป็นเภสัชกรที่ดี มีความเสียสละ พร้อมทำหน้าที่รับใช้สังคม ความสำเร็จของลูกศิษย์ทุกคนจึงเป็นความภาคภูมิใจของอาจารย์ ชีวิตและความเป็นอยู่ที่มศว องครักษ์ ไม่ได้พร้อมไปทุกอย่าง เราผ่านอะไรมาเยอะ แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยความรัก ความเอื้ออาทรที่เรามีให้กัน ทำให้เรามีพลังและกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคทั้งในด้านการเรียนและการใช้ชีวิต ในความรู้สึกของอาจารย์แล้วสายสัมพันธ์ระหว่างครูและศิษย์มีความผูกพันแน่นแฟ้น ครูหวังว่าความทรงจำจากที่แห่งนี้ จะเป็นที่จดจำให้เรานึกถึงเมื่อเราเจอความยากลำบาก ความไม่พร้อมของการทำงาน ทักษะจากที่แห่งนี้ได้หล่อหลอมให้พวกเราพร้อมเรียนรู้ในทุกสถานการณ์ พวกเราทำให้ครูได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากลูกศิษย์เสมอและทำให้ครูเห็นความสำคัญของทักษะการปรับตัว
อยากให้ลูกศิษย์คำนึงอยู่เสมอว่าชีวิตของคนเรานั้นเปรียบเหมือนดอกไม้ จงเรียนรู้ที่จะเติบโตและเบ่งบาน เป็นรอยยิ้มและกัลยาณมิตรที่ส่งกลิ่นหอมไปในทุกๆที่ๆไป ขอให้พวกเรารักษาไว้ซึ่งคุณค่าและพลังในจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ว่าพวกเราจะเจออะไร อาจารย์พร้อมและยินดีที่จะเป็นกำลังใจ ในวันที่อ่อนแอหรือสับสนขอให้หันกลับมา คณาจารย์จะอยู่ตรงนี้เพื่อสนับสนุนพวกเราเสมอ อาจารย์ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จ มุ่งมั่นทำตามความฝัน และเป็นตัวเองในอย่างที่เราอยากเป็น จากเมล็ดพันธุ์ในวันนั้น บัดนี้พวกเราคือดอกไม้ที่แย้มบานและเป็นเภสัชกรที่ครูภูมิใจตลอดไป
คณาจารย์ คณะเภสัชศาสตร์ มศว
บัณฑิตที่ภาคภูมิใจ
ภก. ชัชพงศ์ ตั้งจิตอภิชัย เภสัชกรใช้ทุนสาขาวิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มศว รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ และภูมิใจมาก ซาบซึ้งที่อาจารย์ เพื่อน ๆ เห็นคุณค่าในตัวเรา มันทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่เหนื่อย ท้อ หรือสงสัยในตัวเอง แต่วันนี้ทุกอย่างมันคุ้มค่ามาก รู้สึกขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้าง ๆ และสนับสนุนมาตลอด ทั้งครอบครัว เพื่อน และอาจารย์ทุกท่านที่ให้คำแนะนำดี ๆ คอยเป็นแรงผลักดันให้อยากพัฒนาตัวเองต่อไป หนึ่งในผลงานที่รู้สึกภูมิใจที่สุด คือการทำโปรเจกต์เกี่ยวกับการซึมผ่านผิวหนังของตำรับยาที่พัฒนาขึ้น ตอนนั้นเป็นอะไรที่ท้าทายและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการเตรียมตัว การเรียนรู้กระบวนการ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถผ่านทุกขั้นตอนไปได้ ถึงแม้จะมีช่วงที่เหนื่อยและเจออุปสรรค แต่ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป ก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า เพราะนอกจากจะได้พัฒนาทักษะตัวเองแล้ว ยังได้เรียนรู้ว่าการทำงานวิจัยจริง ๆ ต้องอาศัยความร่วมมือและความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ต้องขอบคุณคณะและอาจารย์ทุกท่านที่ทุ่มเทและสนับสนุนทุกอย่าง ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และคำแนะนำดี ๆ ที่ทำให้เราได้ลองทำทุกอย่างจริง ๆ เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากพัฒนางานวิจัยต่อไปในอนาคตครับ 😊 ช่วยแชร์เคล็ดลับหรืออะไรในตัวเราที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คิดว่าคงเป็นการเคารพเพื่อนร่วมงานครับ ทุกคนมีคุณค่าและจุดเด่นที่แตกต่างกัน การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและให้เกียรติซึ่งกันและกันจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน นอกจากนี้ การสนับสนุนแทนการแข่งขัน และการให้เครดิต/ชื่นชมอย่างจริงใจ จะทำให้เกิดความไว้วางใจและความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เมื่อเพื่อนร่วมงานรู้สึกได้รับการยอมรับและเห็นคุณค่า งานที่ออกมาก็จะมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมความสำเร็จให้ทั้งทีมและตัวเราเองครับ สิ่งที่อยากเห็นในอนาคตสำหรับวิชาชีพเภสัชกรรม คือการที่เภสัชกรทุกคนให้ความสำคัญกับการให้เกียรติเพื่อนร่วมวิชาชีพและยึดมั่นในจริยธรรมวิชาชีพในทุกบทบาท การเคารพความคิดเห็น ความเชี่ยวชาญ และการทำงานของกันและกันไม่เพียงช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกัน แต่ยังช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของวิชาชีพในสายตาของสังคม นอกจากนี้การยึดมั่นในจริยธรรม เช่น การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง การรักษาความลับของผู้ป่วย และการตัดสินใจโดยยึดประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ จะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างเภสัชกรและประชาชน รวมถึงสร้างมาตรฐานที่ดีในวิชาชีพครับ สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องคือ เรียนให้มีความสุขและสนุก อย่าให้การเรียนกลายเป็นภาระหรือความเครียดจนเกินไป คิดว่าเราได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองและสร้างโอกาสในอนาคต ไม่จำเป็นต้องเครียดเสมอไป จัดการชีวิตให้ดี อย่าลืมพักผ่อน และหาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อเติมพลังให้ตัวเองนะครับ 😊
ภก. หรัณย์ชัย แพเจริญชัย เภสัชกรใช้ทุนสาขาวิชาชีวเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มศว รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ในบัณฑิตที่คณะภูมิใจและดีใจที่ได้เป็นแบบอย่างให้กับน้อง ๆ ในอนาคต การได้รับรางวัลบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยมจากมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ และคนดีศรีนครินทร ปีการศึกษา 2564 เจดมองว่าผลงานเหล่านี้เกิดจากการผลักดันตัวเองด้วยแรงสนับสนุนจากทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ และคณาจารย์ของเภสัชมศว ที่ทำให้ผมเติบโตมาผ่านประสบการณ์มากมายตลอด 6 ปี เป็นชีวิตที่เหนื่อยมากแต่สนุกมาก ๆ เช่นกัน ยอมรับในความผิดพลาดของตนเอง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือใหญ่มากแค่ไหนก็ตาม การที่เรายอมรับผลของการกระทำและเรียนรู้จากสิ่งที่เราผ่านมา มันจะทำให้การทำงานหรือการใช้ชีวิตในอนาคตง่ายยิ่งขึ้น อยากให้วิชาชีพมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ ผลักดันและส่งเสริมบทบาทของวิชาชีพเพื่อให้สังคมได้เห็นบทบาทและความสำคัญของวิชาชีพเภสัชกรรม ช่วงเวลาหกปีกับการเรียนแม้จะดูนานแต่อยากให้เรามีความสุขกับปัจจุบันให้มาก ๆ เต็มที่กับทุกอย่างในชีวิตทั้งเรื่องเรียนและกิจกรรม แม้ผลลัพธ์ในอดีตหรืออนาคตจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ถ้าเราเต็มที่กับมันแล้วเราจะไม่เสียดายในผลลัพธ์หรือทางเดินที่เราเลือกแน่นอนครับ
ภญ. นันท์ชพร พวงภู่ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ รู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นบัณฑิตที่ภูมิใจของคณะ เป็นการเติมไฟและกำลังใจในการทำงาน สำหรับเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานแรกในชีวิต คงเหมือนกับเพื่อนหลายคนที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวในการทำงาน ช่วงที่เป็นนิสิตอยู่ในรั้วคณะเภสัชศาสตร์ ทางคณะได้ส่งเสริมศักยภาพนิสิตในหลากหลายด้าน แต่ด้านที่หนูรู้สึกภูมิใจและมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง คือการได้ไปฝึกปฏิบัติงาน ณ De Montfort University ประเทศอังกฤษ เนื่องจากตลอดเวลาที่ได้ไปฝึกฝน อาจารย์ต่างชาติมีคำชมมาเสมอว่ามีความตั้งใจและใส่ใจกับงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งก็เป็นเพราะได้รับการขัดเกลาจากอาจารย์ทุกท่านในคณะ หนูถือคติว่าเราหว่านเมล็ดพืชอย่างไร จะได้ผลแบบนั้นถ้าเราอยากมีความมั่นคงในชีวิตต้องเริ่มจากการเรียนที่ดี ตอนนี้ความมุ่งมั่นตั้งใจที่หนูเรียนรู้ทำให้หนูมีการงานที่มั่นคง สิ่งนี้ทำให้มองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับความพยายามที่ผ่านมา ในอนาตคอยากเห็นคณะได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น อยากให้ช่วยส่งเสริมด้านภาษาต่างประเทศสุดท้ายนี้อยากบอกน้อง ๆ ว่า ชีวิตวัยเรียนที่เราอาจท้อ ขอให้น้องอดทนและตั้งใจกับทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา เพราะทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาจะช่วยสอนให้เราได้แกร่งขึ้น สามารถรับมือกับปัญหาได้ดีมากขึ้น และเมื่อเราผ่านจุดยากนั้นมา มองย้อนกลับไปในอดีตเราจะรู้สึกทึ่งในตัวเองว่าเราผ่านมันมาได้
ภก. ภูมิพัฒน์ โฆษิตชัยวัฒน์ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านบู๊ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนตัวมีหลายความรู้สึกทั้งยินดี ภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการเสนอชื่อในครั้งนี้ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณที่คณะเล็งเห็นถึงศักยภาพ การได้รับโอกาสให้รับผิดชอบกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ประธานโครงการ Pharmacy event 2564 พิธีกรพิธีรับกาวน์ 2563 และพิธีโอสถปฏิญาน 2562 ฝ่ายประชาสัมพันธ์สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ และการได้มีโอกาสไปฝึกปฏิบัติงานที่ De Montfort University ประเทศอังกฤษ ผมคิดเสมอว่า ถ้าเราจะทำอะไรซักอย่างนึง จะต้องตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร จะได้ไม่รู้สึกเสียดายภายหลัง เพราะ ณ ขณะนั้นเราได้พยายามทำเต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้แล้ว นอกจากนี้ การมีความเชื่อมั่นในตนเองว่าเราจะสามารถทำได้ รวมถึงกำลังใจและคำแนะนำจากเพื่อน อาจารย์ และครอบครัว ในอนาคตอยากเห็นเภสัชกรมีบทบาทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข และให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของวิชาชีพเภสัชกรรมแน่นอนว่าการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ work-life balance ดังนั้น อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาออกไปใช้ชีวิต พักผ่อน ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง (อย่ากดดันตัวเองหรือเครียดมากจนเกินไปนะครับ
ภก. ณัชพล กรุณา ปัจจุบันเป็น Specialist, Medical Sales บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับที่เสนอชื่อ มิลรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้รับรางวัล Best practices awards ประจำ Q2-Q4 2024 ของ DKSH : Pfizer oncology team ถึง 2 ครั้งในระยะเวลาการทำงานเพียงแค่ 8 เดือน สิ่งที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานคือ แนวคิด การปรับตัว และเรียนรู้อะไรใหม่ด้วยต้วเองอย่างสม่ำเสมอ พร้อมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การทำงานด้านการตลาดยา สิ่งที่ต้องเจอในแต่ละวันคือต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องเรียนรู้การแก้ปัญหาในการทำงานจากพี่ ๆ คนอื่นแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในอนาคตอยากให้คณะมีการสร้างเครือข่ายในด้านของวิชาชีพที่เหนี่ยวแน่ ชมรมศิษย์เก่าอยากให้มีกิจกรรมเกี่ยวกับกีฬา หรือกิจกรรม workshop เกี่ยวกับสายอาชีพที่รุ่นน้องมีความสนใจ อยากให้น้อง ๆ หาตัวเองให้เจอไปพร้อมกับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รู้ตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบและทำได้ดี ถ้าน้องคนไหนรู้ตัวเองแล้ว อยากให้รีบพัฒนาและหาความรู้เพิ่มเติม สิ่งนี้แหละจะช่วยให้น้องประสบความสำเร็จตามที่น้องตั้งใจครับ
ภญ. ภัคจิรา อนันต์สลุง ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำฝ่ายผลิต โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ ถือเป็นกำลังใจให้ตัวเองเติบโตในสายอาชีพที่ตั้งใจเลือกและอยากที่จะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต่อไป การได้เข้ามาทำงานในสายงานเภสัชกรฝ่ายผลิต ที่โรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ถือเป็นโอกาสที่ทำให้ได้เรียนรู้รูปแบบการควบคุมการผลิตที่ไม่เคยได้พบในชั้นเรียนหรือการฝึกงานมาก่อน รวมถึงการได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบของโรงงานที่ก่อตั้งใหม่ไปพร้อมกับการเติบโตของโรงงาน ช่วยวางรากฐานระบบให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน รู้จักตนเอง เพื่อให้ในทุกการตัดสินใจมั่นคง อยากเห็นเภสัชกรสายอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งมากขึ้น มีความก้าวหน้าทางสายอาชีพมากขึ้นเพื่อให้เภสัชกรสายอุตสาหกรรมสามารถนำความรู้และประสบการณ์ส่งต่อสู่รุ่นถัดไป การลองทำงานหลาย ๆ แบบทำให้เรามีโอกาสได้ค้นหาตัวเอง อย่าปิดโอกาสตัวเองเพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เมื่อเราผ่านงานที่ยากลำบากมาได้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จเราต้องได้อะไรบางอย่างกลับมาแน่นอน
ภก. ณัชพล พิมพ์นาวี ปัจจุบันเป็นเภสัชกร โรงพยายาลสมิติเวชชลบุรี รู้สึกเป็นเกียรติมากครับไม่คิดว่าจะได้รับตำแหน่งนี้ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับที่เห็นถึงศักยภาพของผม คณะได้ให้หลายสิ่งกับผมมากๆ สิ่งที่ผมทำได้คือหวังเพียงเป็นหนึ่งในนิสิตที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ความไม่ย่อท้อให้กับนิสิตรุ่นหลังต่อไปครับ สามารถทำผลการเรียนให้อยู่ระดับสูงต่อเนื่อง 6 ปี โดยที่ยังคงเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของคณะตลอดและสนุกไปกับมันได้ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญสุดไม่ใช่เราเก่งแค่ไหน แต่รู้ว่าเราจะทำยังไงให้เราเก่ง ให้เราทำได้มากกว่า อย่าเพิ่งคิดว่ามันทำไม่ได้ เจอความผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา ท้อได้ ล้มได้แต่ก็ขอให้ลุกได้ครับ อยากให้นิสิตทุกคนจบมาเป็นเภสัชกรที่ดี มีความสุข ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตครับ สู้ ๆ ครับ เรียนได้ เล่นได้ แต่ก่อนสอบก็อย่าลืมตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ
ภก. ภูมิพิทักษ์ จตุภัทรเสนี ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้าน Lab Pharmacy เมื่อทราบว่าได้รับการเสนอเป็นบัณฑิตที่ภูมิใจของคณะ ก็ค่อนข้างตกใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผลงานที่ภูมิใจคือการได้เป็นเภสัชกรที่ดีต่อสังคม ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือผู้ป่วย และการเผยแพร่ความรู้ของประชาชนในสังคม โดยได้รับความรู้และประสบการณ์จากการเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ และการฝึกงานจากแหล่งฝึกงานที่มีคุณภาพ วิธีคิดที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จคือการมองสิ่งที่ยากให้เป็นสิ่งที่ท้าทายและเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเรา การเรียนรู้ตลอดชีวิต เปิดใจรับสิ่งใหม่ตลอดเวลา ในอนาคตอยากเห็นการร่วมมือของคณะเภสัชศาสตร์และเภสัชกรทั้งประเทศในการผลักดันโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและวิชาชีพ ร่วมกันแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขของไทย โดยมีผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง ตอนนี้เห็นคณะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี อยากให้คงการพัฒนานี้ไว้เพื่อให้รุ่นน้องได้รับการพัฒนาเป็นเภสัชกรที่ดีอย่างเหมาะสม ฝากถึงน้อง ๆ ให้ตั้งใจเรียน เก็บความรู้และประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ตอนนี้จะเห็นได้ว่าบทบาทหน้าที่ของเภสัชกรเกี่ยวข้องกับประชาชนมากขึ้น ภาระความรับผิดชอบต่อสังคมก็เพิ่มขึ้นด้วย จะได้เป็นเภสัชกรที่ดีของสังคมต่อไป
ภญ. รชนิชล ภาคนอก ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านบ้านยาสเตชัน จังหวัด กำแพงเพชร ตอนแรกค่อนข้างตกใจแต่ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนที่นึกถึง นอกจากเราแล้วเพื่อน ๆ ทุกคนก็เป็นบัณฑิตที่น่าภูมิใจเหมือนกัน รุ่นเรามีคนเก่งหลายสาขาวิชาชีพ ต้องขอบคุณคณะเภสัชศาสตร์ มศวที่ดูแลพวกเรามาเป็นอย่างดี เภสัชกรชุมชนในต่างจังหวัดทำให้ได้เจอชาวบ้านมากมาย บางคนไม่มีเงินไปหาหมอ ร้านยาก็เป็นจุดรับบริการที่ชาวบ้านจะเข้าถึงได้ง่าย รู้สึกภูมิใจในตัวเองและวิชาชีพที่ได้เป็นที่พึ่งให้ชุมชน แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ใช่ผลงานที่ยิ่งใหญ่อะไรแต่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากทำงานในสายอาชีพนี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยความที่เภสัชกรทำงานเกี่ยวกับยาและเกี่ยวข้องกับชีวิตคน หลักสามประการได้แก่ ประสิทธิภาพ (Efficacy) ความปลอดภัย (Safety) และคุณภาพ (Quality) การทำงานร้านยาก็คิดว่าเราต้องมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นให้มากขึ้นต้องรับบทเป็นแม่ค้าและเภสัชกรควบคู่กันไป สิ่งที่เด่นชัดของนิสิตเภสัชศาสตร์ มศว คือ Soft skills อยากให้คณะเสริมสร้างทักษะนี้ให้เด็ก ๆ ต่อไป เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ชีวิต ในอนาคตอยากเห็นเภสัชกรมีบทบาทในวงการวิชาชีพมากขึ้น ถ้าใครเป็นเด็กต่างจังหวัดมาเรียนที่นี่ อยากบอกว่าไม่ต้องกลัว ที่นี่อบอุ่นมากแม้จะจบออกไปแล้วแต่คณะเภสัชศาสตร์ มศวก็ยังอ้าแขนต้อนรับเราเสมอ
ภญ.พริมประภา เพชรจุล ปัจจุบันเป็น Medical Representative รู้สึกดีใจ ซาบซึ้งใจ และขอบคุณที่ทางอาจารย์และคณะเสนอชื่อพริมขึ้นมาเป็นหนึ่งในบัณฑิตที่ภูมิใจ ตั้งแต่สมัยเรียนที่อาจารย์และบุคลากรช่วยเสนอชื่อพริมให้ได้รับทุนการศึกษาต่าง ๆ จนในวันนี้ได้เรียนจบมาเป็นบัณฑิตหน้าใหม่ ผลงานที่ภาคภูมิใจน่าจะเป็นการใช้ชีวิตเรียนช่วงมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่และคุ้มค่าทั้งกิจกรรมและการเรียน ทำให้ได้รับทักษะและประสบการณ์ดีสามารถนำไปต่อยอดกับการทำงานต่อไปได้ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมาก็คิดว่าความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและความอดทนคือสองสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตทั้งในด้านของชีวิตการเรียนและการทำงานเลย ทำให้ชีวิตเราดำเนินไปได้อย่างมีความสุขไปด้วยกันได้ง่ายขึ้น อยากให้คณะเภสัชศาสตร์ มศว เป็นที่บ่มเพาะเภสัชกรที่ดีมีอัตลักษณ์ของมศวที่ไม่เพียงมุ่งเน้นในด้าน Hard skills แต่หลักสูตรยังมุ่งเน้น Soft skills เพื่อเพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ ที่สำคัญจำเป็นกับการทำงานในอนาคตของนิสิตด้วย อยากให้กำลังใจกับน้อง ๆ ทุกคน ตอนอยู่ปี 1 ก็ว่าเรียนหนักกว่ามัธยมปลาย พอมาเจอปี 3 ยิ่งหนักขึ้นอีก แต่ขอให้กำลังใจและอดทน ช่วงฝึกงานขอให้น้อง ๆ ใช้เวลาค้นหาความชอบตัวเอง อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ตั้งใจเรียนให้เต็มที่แต่ก็อย่าลืมใช้ชีวิตวัยรุ่นมหา’ลัยให้มีความสุขด้วยนะคะ
ภญ.วรัชยา พรหมสุวรรณ เภสัชกรประจำแผนกตรวจสอบความถูกต้องวิธีวิเคราะห์และวิธีทำความสะอาดเครื่องจักรผลิต ฝ่ายประกันคุณภาพ องค์การเภสัชกรรม รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่ได้รับการเสนอชื่อในครั้งนี้ ขอบคุณอาจารย์และเพื่อน ๆ ค่ะ ผลงานที่ภาคภูมิใจของหนูในช่วงที่เป็นนิสิตในคณะเภสัชศาสตร์ มศว คือ การได้ออกแบบเสื้อให้ฝ่ายการตลาด เสื้อโปโลของคณะ รวมถึงเสื้อค่ายหมอยาอาสา เพราะได้ใช้ความสามารถในด้านอื่น ๆ ที่นอกจากการเรียนมาช่วยเงานของคณะค่ะ ตั้งเป้าหมายในการทำงาน และพยายามทำงานให้ดีที่สุดเพื่อบรรลุเป้าหมาย หากเกิดอุปสรรคก็ให้คิดว่าเป็นประสบการณ์ที่จะสร้างความรู้ใหม่ ๆ และผลักดันทำให้เราแข็งแรง รวมถึงสามารถรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ในอนาคตอยากให้คณะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพต่อไป และอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ยาและบทบาทของเภสัชกร สุดท้ายนี้ฝากน้องให้ใช้ชีวิตในมหา’ลัยให้สนุกและเต็มที่ ตั้งใจเรียน และเติบโตเป็นเภสัชที่ดี
บัณฑิตที่ภาคภูมิใจ
ภญ. สุปราณี จอกทอง ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านกัลปพฤกษ์โอสถ ตั้งแต่ปี 1 ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะเภสัชศาสตร์ มศว ก็มีความทรงจำเกิดขึ้นมากมายกับทั้งเพื่อนร่วมรุ่นที่คอยสร้างสีสัน เจอแต่คนแปลกๆแต่อาจจะเพราะเราก็แปลก โลกเลยเหวี่ยงคนแบบเดียวกันมาเจอกัน คอยประคับประคองกันมาจนเรียนจบ พึ่งพากันได้ตลอด ซึ่งก็ไม่ใช่แค่เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องเองก็น่ารัก พร้อมให้คำปรึกษาและซัพพอร์ตกันเสมอ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีแค่เรียนอย่างเดียว ยังมีกิจกรรมที่จะคอยทำให้เราได้เรียนรู้ทั้งการที่เราเป็นผู้เข้าร่วมและผู้จัดกิจกรรม การได้โอกาสทำงานเสโมสรนิสิตของคณะทำให้ได้ลองซ้อมรับมือกับปัญหาทั้งคนและข้อจำกัดที่ถึงแม้จะเหนื่อยบ้างแต่ก็อยากจะทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้ทั้งเพื่อน พี่ และน้องได้สนุกและได้เรียนรู้อะไรไปด้วยกัน สิ่งที่ประทับใจในคณะคืออาจารย์น่ารักพูดคุยปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แต่ละภาคก็มีคาเรกเตอร์ต่างกันไป มีทั้งสายสนุกสนานเฮฮา สายเนี๊ยบ สายหยาดทิพย์ชะโลมจิตใจ สายซัพพอร์ต สายวิชาการ ถึงจะมีดุบ้างแต่ก็เพราะอยากให้เราเก่ง เนื้อหาที่ได้เรียนทุกอัน ในวันที่ออกมาฝึกงานถ้าความรู้พวกนั้นยังคงหลงเหลืออยู่ก็ถือว่ามีประโยชน์มาก และได้ใช้จริง ๆ มศว องครักษ์เอาเข้าจริงก็อยู่ได้ไม่ได้ลำบากอะไร อากาศดี รถไม่ติด ของกินก็หาไม่ยาก น้ำหนักขึ้นกันทุกคน ตนเองรู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนนึงของ RxSWU 22 ทุกคนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีค่ามาก เนื่องจากตอนนี้ทำงานร้านยาการนำความรู้มาใช้เกิดขึ้นกับทุกเคสที่เข้ามารับบริการ เพราะกว่าเราจะจ่ายยาหรือให้คำแนะนำในแต่ละคนได้เราต้องซักประวัติ วิเคราะห์อาการ การเลือกใช้ยา โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ ถึงแม้จะเรียนฝั่ง Pharm Sciences แต่เนื่องด้วยคณะปูพื้นฐานทางด้านยามาครบถ้วนทำให้ไม่มีปัญหาในการทำงาน จุดเด่นของนิสิตเราคือ สีทนได้ งานจะหนัก จะลำบากก็ทนได้ และอีกอย่างที่คิดว่าเจอได้มากในเด็มมศวคือเรื่องความคิดสร้างสรรค์ สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ที่ต้องเรียน ทำแลป ทำวิจัย อ่านหนังสือสอบ ฝึกงาน ขอให้ผ่านไปได้ด้วย A ได้ใช้ชีวิตมหาลัยให้สนุก ทุกปีที่ผ่านไปผ่านไปไวมาก อยากทำอะไรก็ทำเลย แล้วก็อยากชวนให้น้อง ๆ มาลองทำกิจกรรมเยอะ ๆ เพราะจะทำให้ได้เรียนรู้ทักษะ soft skill มากมาย ได้ลองผิดลองถูก ก่อนออกมาเจอโลกการทำงาน
ภก. ธรรมรินทร์ แสงอรุณ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสสาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มศว ความทรงจำที่ดีมากๆจะได้มาระหว่างทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อนในชั้นปีรวมถึงพี่ๆน้องๆภายในคณะ ทำให้ได้รู้จักและสนิทกันกับคนที่เราทำกิจกรรมด้วยกันมากขึ้น เวลามีปัญหา ต้องการปรึกษา หรือต้องการความช่วยเหลือมักจะมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เหล่านี้เข้ามาช่วยเสมอ ความประทับใจในคณะเภสัชศาสตร์ มศว อาจารย์และบุคลากรภายในคณะดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศในคณะน่าอยู่และเป็นกันเอง ปัจจุบันได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ระหว่างฝึกงานมาใช้เพื่อช่วยเหลือและสอนรุ่นน้องในคณะ จุดเด่นของนิสิตเราคือความกล้าแสดงออก เป็นมิตร เอาใจใส่ และตั้งใจทำงานมอบหมายที่ได้รับมา สำหรับในอนาคตอยากให้คณะมีการสอนและฝึกเด็กให้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพแบบนี้ต่อไปหรือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยากให้วิชาชีพมีบทบาทที่เด่นชัดและมีกำลังในการซัพพอร์ตบุคลากรที่หน้างานมากขึ้น ฝากถึงน้องๆขอให้ตั้งใจเรียนเพื่อมาเป็นกำลังสำคัญสำหรับการพัฒนาวิชาชีพให้เข้มแข็งต่อไป
ภญ. นันท์นภัส สหเจริญวงศ์ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรฝ่ายผลิตของสยามเภสัช คณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์มศว ได้ให้การสนับสนุนนิสิตอย่างดีไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านกิจกรรม ด้านคุณภาพชีวิตของนิสิต ชีวิตในมศว องครักษ์ตลอด 6 ปี ล้วนมีแต่ความอบอุ่น สงบ เรียบง่าย แต่สนุกสนาน ความประทับใจของหนูก็คืออาจารย์และเพื่อนๆที่คณะเภสัชฯ มศวค่ะ ในการควบคุมการผลิตยาต้องนำองค์ความรู้โดยรวมของเภสัชศาสตร์โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีเภสัชภัณฑ์ ด้านการควบคุมและประกันคุณภาพเภสัชภัณฑ์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้มั่นใจว่ายาที่ผลิตมีคุณภาพ รวมทั้งต้องนำความรู้ทางคลินิคมาเป็นองค์ประกอบ เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการผลิตยาและยาที่ผลิตออกมานั้นสามารถส่งมอบให้ผู้ป่วยใช้ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของนิสิตเราคือเฮฮา รักเพื่อนพ้อง ในอนาคตอยากให้วิชาชีพเภสัชศาสตร์ไม่ถูกลดความสำคัญ และมีพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เภสัชกรได้ทำหน้าที่ได้เต็มความสามารถเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายนี้อยากฝากให้น้องๆใช้ชีวิตในคณะเภสัชศาสตร์ มศวอย่างเต็มที่ เพราะชีวิตการเรียน 6 ปี เป็นโอกาสที่น้องๆจะได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อนำไปใช้ในการทำงาน ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีและมีความสุขกับชีวิตในรั้วมหาลัยค่ะ
ภญ. บัณฑิตา ศรีประพันธ์ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านยา สำหรับความประทับใจต่อคณะเภสัชศาสตร์ มศว คือมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่น่ารักเข้าใจ พร้อมรับฟังและช่วยเหลือหากเรามีปัญหา การอยู่ที่นี่ทำให้เราได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้กลับมาสนใจสิ่งรอบตัวที่เรามี ได้ใช้ชีวิตสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ และได้โฟกัสกับการเรียนอย่างเต็มที่ ในการทำงานจริงบางสายงานสามารถนำองค์ความรู้ที่เรียนมาใช้ได้เลย เช่น การซักประวัติแต่บางอย่างก็ต้องปรับไปตามสถานการณ์โดยประยุกต์จากพื้นฐานความรู้เดิม อยากจะบอกว่าสิ่งที่สำคัญในการทำงานคือเราต้องใช้ใจทำงาน ในฐานะเภสัชกรก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ “ความพยายาม” แม้ช่วงแรกเราอาจจะไม่เก่งหรือเชี่ยวชาญ แต่ถ้าเราพยายามเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งก็จะสามารถเชี่ยวชาญมากขึ้นได้ ดังนั้นความเก่งไม่สำคัญเท่าความพยายาม และโลกนี้มีรางวัลสำหรับทุกความพยายามเสมอ คิดว่าจุดเด่นของนิสิต มศว คือ ความสนิทสนมและการช่วยเหลือกันของอาจารย์ เพื่อนร่วมรุ่น หรือรุ่นพี่รุ่นน้อง อาจเป็นเพราะคณะเราอยู่ค่อนข้างไกล หลาย ๆ คนต้องจากบ้านมาใช้ชีวิตในอีกที่หนึ่ง ต้องมาอยู่หอ อยู่กับเพื่อน ๆ การเปิดใจและลดกำแพงของตัวเองลง เพื่อทำความรู้จักกับสิ่งแวดล้อมและผู้คนใหม่ ๆ ทำให้เราสนิทกันมาก ๆ สามารถพูดคุยกัน และเต็มใจที่จะช่วยเหลือกันเสมอ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ ความอดทนและการปรับตัวเก่ง คิดว่าสถานที่น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยฝึกความอดทนและการปรับตัวชั้นดี พึ่งพาตนเองหรือพึ่งพาในสิ่งที่เรามีอยู่ เรียกได้ว่าถ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ การปรับตัวกับที่อื่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ สำหรับคณะเภสัชศาสตร์ อยากเห็นการพัฒนาด้านหลักสูตร เพื่อให้สัมพันธ์กับการทำงานจริงและความสนใจของผู้เรียนมากขึ้น รวมถึงอยากเห็นคณะเติบโต และผลิตบุคลากรที่ดีและมีคุณภาพออกมาในสังคมและประเทศชาติไปเรื่อย ๆ สำหรับวิชาชีพเภสัชกรรม อยากเห็นเภสัชกรที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ มีจริยธรรมที่ดี ซื่อสัตย์ จริงจัง และจริงใจในการปฏิบัติงานค่ะ อยากฝากถึงรุ่นน้องทุกคนว่าเวลา 6 ปีไม่ได้นานนะ เวลามันผ่านไปไวกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำกิจกรรม การได้พูดคุยกับอาจารย์ และการได้สนุกกับเพื่อน ๆ ขอให้น้องใช้เวลาให้เต็มที่ รับรองว่า 6 ปีในคณะเภสัชศาสตร์ มศว แห่งนี้จะมีความทรงจำดี ๆ มากมายให้น้องได้จดจำอย่างแน่นอน สำหรับน้องที่มีความฝันแล้วว่าตัวเองอยากทำงานสายไหน ขอให้น้องมุ่งมั่นทำตามความฝันของน้องให้สำเร็จ ส่วนน้องที่ตอนนี้อาจจะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไร พี่อยากจะบอกว่าการ ”ยังไม่รู้” ไม่ใช่เรื่องผิด น้องสามารถสอบถามจากคนที่มีประสบการณ์หรือลองผิดลองถูกด้วยตัวเองได้ วันหนึ่งน้องเองก็จะ ”รู้” เช่นกันว่าความฝันของเราคืออะไร พี่ขอเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนนะคะ ส่วนสิ่งที่อยากฝากถึงคณะเภสัชศาสตร์ มศว คือ “ขอบคุณ” ขอบคุณที่ทำให้หนูมีความรู้มาใช้ในการประกอบวิชาชีพ ขอบคุณที่ทำให้หนูได้รู้จักกับอาจารย์ที่น่ารัก ขอบคุณที่ทำให้หนูได้พบกับมิตรภาพดี ๆ และขอบคุณที่หล่อหลอมให้หนูได้เป็นตัวเองในวันนี้ คณะเภสัชศาสตร์ มศว ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่หนึ่ง แต่คณะเภสัชศาสตร์ มศว คือ “ความผูกพัน”
ภก. อภิสิทธิ์ เจริญขำ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านขายยา ตั้งแต่เข้ามาเรียนจนจบการศึกษา คณะเภสัชศาสตร์ มศว เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่น อาจารย์และพี่ๆเจ้าหน้าที่ ดูแลพวกเราดีมาก มีความใกล้ชิดเป็นกันเอง ให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนนิสิตเสมอ มีมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนๆ รุ่นพี่และรุ่นน้อง ทำให้ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ศึกษา ณ ที่แห่งนี้ ได้รับทั้งความรู้ ประสบการณ์ และความทรงจำที่ดีมากมาย โดยส่วนตัวชอบวิชาซักประวัติจ่ายยา จึงเลือกทำงานที่ร้านขายยา ได้นำความรู้เกี่ยวกับการซักประวัติ การเลือกใช้ยาที่เหมาะสม การให้คำปรึกษาในการใช้ยา เพื่อให้คนไข้ใช้ยาเหมาะสมถูกต้องร่วมกับมีการปฏิบัติตัวที่ถูกวิธี นอกจากการเรียนแล้ว คณะเภสัชศาสตร์ มศว มีกิจกรรมให้ทำค่อนข้างเยอะ ที่ช่วยพัฒนาและเสริมสร้าง soft skill ทำให้นิสิตมีความกล้าแสดงออก มีภาวะผู้นำ มีทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีการบริหารเวลาได้ดี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ในหลากหลายบทบาท สามารถเป็นทั้งผู้นำและผู้ตามที่ดี ดังนั้นสิ่งไหนที่ดีอยู่แล้วของคณะเราฝากน้องๆเก็บรักษาเอาไว้ ส่วนสิ่งไหนที่อาจจะยังไม่ค่อยโอเค ก็ช่วยกันพัฒนาแก้ไข ส่วนในด้านวิชาชีพเราซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้มีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามามากมาย บทบาทหรือการทำงานของวิชาชีพเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องมีการปรับตัว พวกเราอาจต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี หรืออาจต้องช่วยกันพัฒนาบทบาทวิชาชีพเราให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะมีส่วนช่วยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิตยาและต่อคนไข้ "อีกอย่างที่อยากบอกน้องๆคือ เราทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ทุกคนเก่งและมีความถนัดในแบบของตัวเอง การเรียนบางวิชาหรือกิจกรรมบางอย่างเราอาจจะยังไม่ถนัดไม่ชำนาญในตอนนี้ ชีวิตย่อมมีผิดหวังบ้าง สมหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้เสมอ ขอให้น้องๆภูมิใจในตัวเองนะครับ และอย่างที่ได้กล่าวไป คณะเราส่งเสริมทั้งการเรียนและยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ก็ช่วยให้เราได้ฝึกทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นและเสริมสร้าง soft skill ที่ดี สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณคณะเภสัชศาสตร์ มศว ขอบคุณคณาจารย์ พี่ๆเจ้าหน้าที่ เพื่อน Rx SWU 22 รุ่นพี่และรุ่นน้องทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีให้กันและกัน - Rx SWU forever
ภก. พัทธดนย์ ศรีไทยรักษ์ เภสัชกร กองเภสัชกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. เมื่อนึกถึงความทรงจำที่คณะเภสัชศาสตร์ มศว คิดถึงบรรยากาศอบอุ่น ตอนได้เจออาจารย์และเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เช้าก็ช่วยกันปลุก เย็นก็พากันไปเดินตลาด เป็นบรรยากาศหาที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว อาจเป็นเพราะความห่างไกลขององครักษ์ ที่ทำให้พวกเราใกล้ชิดกัน ปัจจุบันได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาในการตรวจสอบความเหมาะสมของใบสั่งยา ตอบคำถามคนไข้และใช้ในการดูแลบริหารสต๊อคยา มีทักษะในการสื่อสารที่ดี กล้าแสดงออกและมีภาวะความเป็นผู้นำ และที่สำคัญเลยคือมีทักษะการทำงานเป็นทีมสูงซึ่งสำคัญมากสำหรับการทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ ในอนาคตอยากเห็นคณะเภสัชศาสตร์ มศว สร้างนิสิตเภสัชศาสตร์ที่มีคุณภาพดีเช่นนี้หรือดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต อยากฝากรุ่นน้องว่านอกจากจะแม่นวิชาการแล้ว อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่น ความตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบ เพราะมันเป็นบันไดที่ส่งให้เราก้าวเดินเติบโตไปข้างหน้าได้
ภก. กฤตธี พูลช่วย ปัจจุบันเป็นนักวิจัยที่แผนกวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม การที่เพื่อน ๆ ในคณะส่วนใหญ่อยู่หอด้วยกัน ไปกินข้าว อ่านหนังสือด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ประทับใจอาจารย์ที่คอยยื่นมือช่วยเหลือนิสิตในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการเรียน เช่น ช่วยสอนนิสิตที่ไม่เข้าใจเพิ่มเติมนอกเวลา และด้านอื่นที่ไม่ใช่การเรียน เช่น ดูแลนิสิตที่มีปัญหาความเครียด ปัจจุบันได้ใช้ความรู้ด้านการประกันคุณภาพสำหรับการออกแบบระบบการทำงานเพื่อทำให้ดำเนินการวิจัยโดยมีผลการทดลองที่น่าเชื่อถือ การจัดทำเอกสารอย่างเป็นระบบ และได้นำทักษะการปฏิบัติการใน lab มาใช้ จุดเด่นของนิสิตมศซ คือ ขยัน อดทน ยืดหยุ่น มีทักษะการประยุกต์ มีความรู้ทักษะหลากหลาย ในอนาคตอยากให้มีทุนสำหรับการเรียนรู้และการทำงานด้านการวิจัยมากขึ้น ทำให้สามารถทำงานที่ advanced และวิชาชีพเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มการพึ่งพาตนเองด้านยาที่ผลิตภายประเทศได้มากขึ้นและหวังว่าจะรุ่นน้องมาร่วมงานวิจัยและพัฒนามากขึ้น
ภญ. พิชญา วสุวิทย์ ปัจจุบันเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลรวมแพทย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา คณะเภสัชศาสตร์ มศว ทำให้เจอเพื่อนและมิตรภาพเพื่อนๆ ช่วยกันเรียนช่วยกันทำกิจกรรม ทำให้ช่วงเวลาในแต่ละปีเต็มไปด้วยความสนุก อาจารย์น่ารัก ที่นี่มีของกินถูกและอร่อย ช่วงที่เรียนรู้สึกว่าเนื้อหาแต่ละวิชาหนัก ช่วงที่ฝึกงานสายโรงพยาบาลอาจารย์ประจำแหล่งฝึกให้ความรู้อย่างเต็มที่ทำให้ได้ใช้ความรู้ทั้งหมดที่ฝึกฝนในช่วงที่เริ่มต้นทำงานและสามารถผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้ด้วยดี นิสิตมศวมีจุดเด่นเป็นคนที่กระตือรือร้น รับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆได้อย่างดี ในอนาคตอยากเห็นวิชาชีพเภสัชกรมีความแข็งแกร่ง มีบทบาทและความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญและชำนาญเรื่องยาอย่างแท้จริง สุดท้ายอยากฝากถึงรุ่นน้องว่าตั้งใจเรียน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เนื้อหาในห้องเรียน ตอนเรียนน้องอาจจะคิดว่าเนื้อหามันเยอะ มันหนัก แต่พอน้องได้มาทำงานจริงทุกอย่างจะสามารถบูรณาการและนำมาใช้ในการทำงานได้ทั้งหมดเลย
ศุภเศรษฐ์ เลิศกาญจนศักดิ์
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านยาและเป็นนิสิตระดับปริญญาโท คณะเภสัชศาสตร์ มศว ความทรงจำที่ประทับใจเป็นตอนที่ทำกิจกรรมค่ายหมอยาโดยได้รับหน้าที่ทำอาหาร รู้สึกได้ทำสิ่งที่ชอบและได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ได้ทานอาหารที่เราทำ รู้สึกดีใจและประทับใจมาก กิจกรรมนี้ทำให้ได้ใช้เวลาและได้เห็นทักษะของเพื่อนๆ ซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างกันทำให้กิจกรรมค่ายดำเนินไปได้อย่างดี ผมรู้สึกขอบคุณเพื่อนๆที่ทำให้กิจกรรมนี้เป็นความทรงจำที่ดี สำหรับผมในฐานะเภสัชกรร้านยา ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างเต็มที่ทั้งการจ่ายยา การซักประวัติ การส่งต่อผู้ป่วย ผมรู้สึกขอบคุณการเรียนการสอนในคาบการจ่ายยา ที่ได้จับคู่ซักประวัติกับเพื่อน ทำให้ผมสามารถซักประวัติคนไข้ได้เป็นลำดับขั้นตอนและไม่หลุดจากประเด็นที่สงสัย ผมคิดว่านิสิตมศวมีจุดเด่นที่ความอดทน สามารถใช้ชีวิตได้ทุกที่ มีทักษะการตอบคำถามที่ดี ผมขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่คอยตั้งคำถาม สั่งสอนให้นิสิตมีการคิดและการตอบคำถามให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน ผมอยากฝากถึงน้องๆว่า การเรียนนั้นสำคัญก็จริง แต่การใช้ชีวิตก็สำคัญ อย่าเครียดกับการเรียนจนมากเกินไป หาประสบการณ์ในการใช้ชีวิต การเข้าสังคมและการพูดคุยกับผู้อื่นก็สำคัญเพราะเราไม่วามารถใช้ชีวิตบนโลกนี้ด้วยตัวเองคนเดียวได้ตลอดไป
ชลัฐพล พรเจริญ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรผ่ายขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ สำหรับผมที่นี่ทำให้ได้เจอเพื่อนๆ ได้ผ่านอะไรต่างๆมาด้วยกัน ทั้งการเล่นการเรียน แม้จะมีอุปสรรคแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี เพราะทุกคนพร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างกันและกันเสมอมา ทักษะทางวิชาการในห้องเรียนเป็นเพียงพื้นฐานแต่การลงมือปฏิบัติจริงจะทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น ประสบการณ์และคำสั่งสอนของอาจารย์ได้หลอมรวมให้นิสิตมศว มีทักษะการใช้ชีวิตที่เข้มแข็ง พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ผมอยากให้คณะเภสัชศาสตร์มีการส่งเสริมนิสิตไปในทางของคนรุ่นใหม่ เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้เกิดแนวความคิดที่ออกจากกรอบเดิม การให้อิสระนิสิตได้มีโอกาสลองทำสิ่งใหม่ๆ จะช่วยพัฒนาคณะให้ก้าวไปข้างหน้า สุดท้ายอยากให้รุ่นน้องใช้ชีวิตให้เต็มที่ ออกไปเที่ยว ตามหาของอร่อยๆ ไม่ต้องทำข้อสอบให้คะแนนเยอะๆก็ได้ เอาแค่พอผ่านแต่มีเวลาใช้ชีวิตไปพร้อมๆกัน
ร้อยตรี ภาคิไนย ศิริรัตน์
ปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกเภสัชกรรม โรงพยาบาลค่ายเขตอุดมศักดิ์ การศึกษาที่คณะเภสัชศาสตร์ มศว เป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ชีวิตด้วยตนเอง เริ่มใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ทั้งการศึกษา การใข้ชีวิตประจำวัน ที่นี่หล่อหลอมให้ผมมีความรู้และสามารถผสมผสานทักษะในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดีเมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน หลักสูตรสายเภสัชอุตสาหการและสายบริบาลทางเภสัชกรรม มีจุดเด่นต่างกันแต่เมื่อเรียนจบมาก็สามารถพึ่งพาและทำงานข้ามสายงานกันได้ แม้ว่าผมจะเรียนจบทางด้านเภสัชอุตสาหการ แต่ก็สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาล เช่น การคัดเลือกยาเข้าโรงพยาบาล การตรวจสอบกระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ นอกจากนี้ผมได้เข้ามาทำงานในเชิงบริหาร ได้ใช้ทักษะด้าน soft skills เช่น การดูแลเจ้าหน้าที่และกำลังพล การดูแลระบบยา การประสานงานกับคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบำบัด (Pharmaceutical and Therapeutic Committee: PTC) การพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาล (Hospital Accreditation: HA)จุดเด่นของนิสิตมศว คือ ทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า กล้าตัดสินใจและเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ ผมอยากเห็นการพัฒนาหลักสูตรให้ก้าวทันองค์ความรู้ปัจจุบันให้มากขึ้น สิ่งใดที่ล้าหลังก็ควรมีการปรับให้เหมาะสมมากขึ้น ให้นิสิตได้มีโอกาสฝึกงานและทำงานให้มากกว่าการนั่งเรียนท่องจำ สุดท้ายนี้อยากให้รุ่นน้องเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด การเรียน 6 ปีเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก มีมิตรดีกว่าศัตรู หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน รักเพื่อนในรุ่นไว้เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าจะจากกันวันไหน ชีวิตไม่แน่นอน อยากให้รุ่นน้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้เต็มที่ พี่เชื่อว่าน้องรุ่นหลัง จะต้องมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ทั้งด้านทักษะและองค์ความรู้มากกว่ารุ่นพี่แน่นอน
นวพร ขีระมาตย์
ปัจจุบันเป็นผู้แทนยา ตั้งแต่ที่ได้ก้าวมาในคณะเภสัชศาสตร์ มศว สิ่งแรกที่ประทับใจคือการที่พี่เพลงมาร้องเพลงในกิจกรรมรับน้อง รู้สึกอบอุ่นและในทุกชั้นปีจะมีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันเสมอ ทำให้สนิทกับพี่ๆน้องๆ อาจารย์และพี่เจ้าหน้าที่ในคณะ การได้เป็นประธานสโมสรนิสิต ยิ่งทำให้ได้พัฒนาตนเองในทุกด้าน ถ้าไม่ได้รับโอกาสให้มาทำหน้าที่ตรงจุดนี้ ตอนนี้อาจจะไม่ใช่นวพรที่พร้อมรับทุกสถานการณ์แบบทุกวันนี้ การเรียนสายบริบาลทางเภสัชกรรมจะมีความรู้ในเรื่องของยา การวินิจฉัยเบิ้องต้น ทักษะการให้คำปรึกษาและจ่ายยา สำหรับบทบาทผู้แทนยา ได้ใช้ความรู้เรื่องกลไกยา อันตรกิริยาระหว่างยา และแนวทางการรักษาโรคต่างๆ อยากให้คณะเอื้ออำนวยให้นิสิตสายบริบาลทางเภสัชกรรมมีโอกาสฝึกงานที่หลากหลาย เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนยา การตลาด CRA MSL นอกจากนี้ อยากให้คณะสนับสนุนกิจกรรมนอกองค์กรเพื่อดึงความสามารถของน้องรุ่นใหม่ ช่วยทำให้คณะเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้ เช่น Startup Pharma by MPAT, TED fellow หากคณะสร้างแรงจูงใจและช่วยผลักดันเชื่อว่าจะต้องหาเพชรเม็ดงามที่จะโดดเด่นในกิจกรรมเหล่านี้เจออย่างแน่นอน สุดท้ายนี้อยากฝากถึงรุ่นน้อง ตอนนี้เรียนอยู่ยังมีโอกาสได้ลองผิดลองถูก เราอาจจะยังไม่รู้ว่าเรียนจบไปแล้วอยากจะทำงานสายไหน เมื่อมีโอกาส จงคว้ามันเอาไว้ อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดลอยไป
สิลัคนา นาคฤทธิ์
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลปทุมธานี ด้วยความที่คณะมีนิสิตไม่มากเวลาที่ทำกิจกรรมจะรู้สึกว่าทุกคนได้ทำและพยายามช่วยกัน ทำให้ได้ความทรงจำและมิตรภาพที่ดี ชีวิตที่องครักษ์ค่อนช้าง slow life ปั่นจักรยานมาคณะ ใกล้ชิดธรรมชาติ ตอนเรียนเคยแอบคิดว่าเรียนไปทำไมเยอะแยะ แต่พอมาทำงาน ความรู้ทุกอย่างได้เอามาประยุกต์ใช้ทั้งหมด นิสิตมศว มีความโดดเด่นในเรื่องการปรับตัว ความสามารถในการเอาตัวรอด กล้าแสดงออก กล้าที่จะลองทำ กล้าพูดในสิ่งที่ควรพูด มีความกระตือรือร้นและเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี ในอนาคตอยากสนับสนุนให้เภสัชกรมีโอกาสในการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เภสัชกรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น การพัฒนามาตรฐานการประกอบวิชาชีพให้เทียบเท่าสากล สุดท้ายนี้อยากฝากคำพูดถึงน้องๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ซึ่งเป็นคำพูดที่คุยกับเพื่อนบ่อยๆในช่วงการฝึกงาน Clerkship ถ้าเหนื่อยและท้อแนะนำให้คุยกับเพื่อนหรืออาจารย์ที่รู้สึกสบายใจ คุยกับพ่อแม่ คุยกับหมา แมวก็ได้อย่าเก็บไว้คนเดียว สุดท้ายอยากให้ทุกคนเข้มแข็งฝ่าฟันอุปสรรคและไปถึงเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ
ศกลวรรณ มวลศิริ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรฝ่ายประกันคุณภาพ มศว องครักษ์ เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขและสนุกมาก ที่นี่ของกินถูกและอร่อย พูดแล้วคิดถึงโรงเขียว ตลาดนัด และพลาซ่า สิ่งที่ประทับใจในคณะเภสัชศาสตร์ มศว คือการที่อาจารย์คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด มีกิจกรรมให้ทำ เช่น Sport day ค่ายหมอยา ถึงจะเหนื่อยแต่ก็รู้สึกสนุก ที่นี่ให้ทั้ง hard skills และ soft skills มาใช้ในการทำงาน ตอนนี้ทำงานในตำแหน่ง QA ได้ใช้ความรู้ทั้งวิชา Techno และ QC ทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญกับเรื่องต่างๆ นิสิตมศวมีจุดเด่นเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้น สามารถรับมือสถานการณ์ต่างๆได้ดี พร้อมปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ในอนาคตอยากเห็นวิชาชีพมีบทบาททางด้านยาและการดูแลผู้ป่วยในทีมสหวิชาชีพเพิ่มมากขึ้น อยากให้คณะเภสัชศาสตร์ผลักดันให้นิสิตพัฒนาศักยภาพของตัวเองเพิ่มมากขึ้น อยากบอกน้องๆทุกคนว่า ทุกคนเก่งมากที่เรียนในคณะนี้ กว่าจะผ่านมาได้มันหนักพอสมควร อยากให้ทุกคนภูมิใจในตนเอง ถ้าเหนื่อยกับการเรียนหรือเรื่องต่างๆที่เจอเดี๋ยวมันก็ผ่านไป อยากให้เต็มที่กับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำมันให้ดีที่สุด
พงศ์ธร บัวสุวรรณ
ปัจจุบันเป็น เภสัชกรฝ่ายผลิต บริษัท ไทยเมจิฟาร์มาซิวติคัล จำกัด ความทรงจำที่ดีคือ ช่วงเวลาที่ได้เรียนได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ และมีคณะที่คอยซัพพอตให้ตลอด ทั้งเปิดห้องซ้อมทำแลป เปิดห้องอ่านหนังสือ เวลามีปัญหาอะไรก็สามารถปรึกษาอาจารย์ได้เสมอ อย่างแรกเลยคือ hard skill ที่ทุกวิชาที่ได้ใช้ตามสายอาชีพที่ได้ทำ และ soft skill ที่ทางคณะจัดกิจกรรมให้ สามารถช่วยพัฒนาตัวเองในหลายๆด้าน ทั้งสกิลความเป็นผู้นำ สกิลด้านภาษา ทำให้สามารถปรับใช้ได้จริงในการทำงาน บัณฑิตของคณะเภสัชศาสตร์ มศว จุดเด่นคือ มีความสู้งานสูงมาก ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้สามารถทำงานต่างๆได้หลากหลาย และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ตลอดเวลา อยากให้คณะคอยช่วยเหลือพวกเราอย่างนี้ต่อไป คอยรับฟังและร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งจะเป็นการทำให้นิสิตสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ฝากถึงน้องๆว่า ตอนเรียนอาจจะเจอกับสิ่งที่ยากลำบาก แต่พี่เชื่อว่า ไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้ อยากให้ลองสู้ แต่ถ้าเราสู้แล้วยังถึงทางตัน อยากให้ลองมองรอบๆตัว จะมีทั้งครอบครัว เพื่อน อาจารย์ ที่คอยสนับสนุนน้องๆ อยู่ ให้ลองปรึกษาคนเหล่านั้นดูได้ และน้องจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนั้นได้เอง
ภาคภูมิ พัวพันธุ์
ปัจจุบันเป็น เภสัชกรประจำร้านยาเทคแคร์ฟาร์มา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยคณาจารย์ และบุคลากรที่มากความสามารถ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านั้นการฝึกปฏิบัติงานทำให้ได้รับประสบการณ์การทำงานจากแหล่งฝึกที่เหมาะแก่การพัฒนาความรู้อย่างก้าวกระโดด แม้ในบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกท้อแท้ใจอยู่บ้าง แต่ความรักความอบอุ่นของคณาจารย์ บุคลากร พี่น้อง รวมถึงเพื่อนๆร่วมคณะทำให้ความกังวลหรือความรู้สึกท้อถอยได้คลายออกไปมาก ไม่เพียงแต่การศึกษา กิจกรรมที่ได้เข้าร่วมในคณะเภสัชศาสตร์แห่งนี้ยังมีหลากหลาย ช่วยพัฒนาทักษะที่อาจไม่ได้ในห้องเรียนอีกด้วย
สุดท้ายนี้อยากขอบคุณอาจารย์ บุคลากรทุกท่าน รวมถึงเพื่อนๆทุกคนที่ทำให้คณะเภสัชศาสตร์แห่งนี้มีแต่ความทรงจำที่สวยงาม และน่าระลึกถึงอยู่เสมอ ความรู้ที่คณะเภสัชศาสตร์ได้ปลูกฝังคือความรู้ด้านยาและสุขภาพที่ เพื่อให้ประชาชนที่เจ็บป่วยได้รับบริการทางสุขภาพอย่างเหมาะสมต่อตัวเองมากที่สุด ส่วนตัวคิดว่าความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่นิสิตมศวโดดเด่น โดยประยุกต์ใช้ความรู้ทางเภสัชศาสตร์ให้เข้าถึงประชาชนไดง่าย สุดท้ายนี้อยากเห็นวิชาชีพเภสัชศาสตร์มีการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ร่วมกับวิชาชีพอื่นอยู่เสมอ อยากให้น้องๆได้ฝึกทักษะที่สำคัญทั้งด้านวิชาการ และทักษะการทำงานไปพร้อมๆกันเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ธิติมา วงศ์จิตราภรณ์
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรใช้ทุน คณะเภสัชศาสตร์ มศว ย้อนชีวิตไปตอนปี 1-2 เป็นช่วงที่รู้สึกอินกับคำว่าองครักษ์แดนแห่งชีวา เสน่ห์ของมศว องครักษ์ คือ ชีวิตแบบ Slow life ในทุกๆเย็นจะมีคนไปวิ่งที่วงเวียนหรือสนามหลัก มีคนมาให้อาหารปลาที่หอพระ ปั่นจักรยานตากลมชิวรอบมหาวิทยาลัย มันทำให้ความเหนื่อยจากการเรียนหมดไปเหมือนได้ชาร์จพลังขึ้นมาอีกครั้ง พอชีวิตเริ่มโตขึ้น เข้าคณะเรียนวิชาหลักมากขึ้น มีงานกลุ่มมากขึ้น มันทำให้ได้สนิทกับเพื่อนในรุ่นได้มากกว่าที่คิด ตกเย็นก็มีนัดทำงานทำกันจนถึง 4 ทุ่มก็หมดเวลาต้องรีบขึ้นหอ มองย้อนกลับไปยังรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเด็กหอใน ได้สัมผัสกับชีวิตอีกแบบที่เด็ก มศว ประสานมิตร ไม่มีโอกาสได้สัมผัส ได้นอนกับเพื่อน 5 คนในห้องเดียวกัน เล่นบัดดี้กันเองในห้อง หรือแม้แต่การจัดเวลาเพื่อตื่นมาอาบน้ำตอนเช้า ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปก็ยังจะเลือกอยู่หอในแบบเดิม ด้วยสายการทำงานในตอนนี้ทำให้ได้เอาความรู้มาใช้ 100% เพราะสิ่งที่ได้เรียนมา มันคือสิ่งที่ต้องส่งต่อให้รุ่นน้องทั้งหมด ดังนั้นการที่ได้เรียนมาก่อน ได้ผ่านมาก่อน หรือแม้แต่สิ่งที่เคยพลาด เคยจำสับสน หรือจำผิดมาก่อน มันจึงช่วยให้แนะนำน้องๆได้ดีขึ้น เอกลักษณ์ของนิสิตเภสัชศาสตร์ มศว นิสิตมหาวิทยาลัยอื่นมักชมว่ามศว เก่ง มีพื้นฐานความรู้แน่น กล้าแสดงออก กล้าลงมือทำ กินง่าย อยู่ง่าย ไม่ติดหรู ทำให้ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ในอนาคตอยากเห็นภาพคณะที่เคยวาดฝันไว้ตอนเรียน นั่นคือ การเอาห้องสมุดและ SWU lobby มารวมกันไว้ที่คณะ การมีมุมนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน มีร้านกาแฟเล็กๆ มีขนมขายจนถึง 4 ทุ่ม มีแอร์เย็นๆ สำหรับเตรียมตัวสอบกลางภาค/ปลายภาค สอบใบประกอบวิชาชีพ สุดท้ายนี้อยากฝากถึงรุ่นน้องให้ได้ใช้ชีวิตของการเรียนมหาลัยให้ครบทั้งด้านการเรียน กิจกรรม และการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนในรุ่น เพราะหากเวลามันผ่านเลยไปแล้ว พวกหนูจะไม่สามารถย้อนกลับมาทำอะไรแบบนี้ได้อีก แล้ววันนึงมันจะกลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่อยากจะแชร์ต่อถึงรุ่นน้องต่อไป
เดโช มงคลศิลป์
ระบบดูแลนิสิตของคณะเภสัชศาสตร์ มศว ค่อนข้างเข้าถึงง่าย ส่วนตัวชอบบรรยากาศการฝึกงานด้านเภสัชกรรมปฐมภูมิและรู้สึกมีความสุขทุกวันกับการฝึกงาน ได้นำความรู้ที่เรียนมา ประยุกต์ใช่กับทักษะทางด้าน soft skill ที่ผ่านการอบรมจากคณะในตอนปี 5 จึงคิดว่าภูมิใจในตัวเองที่สามารถนำความรู้และทักษะการสื่อสารของตัวเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่ นิสิตมศว มีจุดเด่นในแง่ที่ข้าถึงได้ง่าย (Ego น้อย) สิ่งที่อยากเห็นต่อไปในอนาคตสำหรับคณะเภสัชศาสตร์คืออยากให้ความเครียดในการเรียนของนิสิตลดลง แต่ยังได้รับความรู้จากการเรียนเหมือนเดิมหรือมากกว่า เพิ่มชั่วโมงฝึกงานให้มากขึ้นทดแทนการเรียนบางเนื้อหาที่ยากต่อการเข้าใจ เพราะการฝึกงานวิชาชีพทำให้ได้เห็นภาพขององค์ความรู้ได้หลายมิติมากกว่า
ธนภัทร สุขสมบูรณ์
บัณฑิต คณะเภสัชศาสตร์ ปัจจุบันศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการเภสัชภัณฑ์ อยากขอบคุณความอบอุ่นและความเป็นกันเองทั้งจากอาจารย์ บุคลากร และรุ่นพี่รุ่นน้องทุกท่านที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา การเรียนที่องครักษ์ทำให้เราได้พัฒนาทักษะด้านการปรับตัวและความอดทนต่ออุปสรรคและความยากลำบากได้เป็นอย่างดี รุ่นน้องควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยให้มากที่สุด ทั้งในด้านวิชาการและกิจกรรม ทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกๆ ด้าน เราแค่ทำให้ดีที่สุดในมุมของเราก็พอ แล้วเราจะไม่มาเสียดายทีหลังว่าเราพลาดอะไรไป
กันตพร วิเศษโชค
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรขึ้นทะเบียนตำรับยา 6 ปีกับการเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ มศว องครักษ์ ทำให้ตนเองได้รับ ประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตมากมาย เช่น การได้ออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองหรือการได้อยู่ร่วมกับคนอื่นนอกเหนือจากครอบครัวเป็นครั้งแรก การใช้ชีวิตที่มศว ทำให้ตนเองได้พบกับเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือและ support กันทั้งในด้านการเรียนและการใช้ชีวติ งานขึ้นทะเบียนยาเป็นงานที่สนุก ได้หยิบเอาองค์ความรู้พื้นฐานแต่ละส่วนที่ได้จากการเรียนและการฝึกงานในทุกๆด้านมาประยุกต์ใช้ สิ่งที่อยากเห็นในอนาคต คือ อยากเห็นคนในวิชาชีพมี empathy แก่ผู้อื่นให้มากขึ้น ช่วยให้เราเข้าใจคนอื่น และทำให้เราได้มองคนอื่นในแง่มุมที่นอกเหนือไปจากหลักวิชาการ
ปิยาภรณ์ นาคศรีชุ่ม
ปัจจุบันเป็นผู้แทนยา บริษัท Eli Lilly เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อคณะเภสัชศาสตร์ มศว ว่าอาจารย์มีความเป็นกันเอง พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ คิดว่านิสิตมศว มีจุดเด่นในแง่ที่มีความมั่นใจในตัวเองและกล้าแสดงออก อยากฝากถึงรุ่นน้องให้ตั้งใจฝึกงานเพราะเป็นช่วงที่เราต้องหาตัวเองให้เจอ นอกจากนี้ ถ้าเราตั้งใจฝึกงาน สามารถทำผลงานออกมาได้ดี อาจทำให้เราได้รับโอกาสเข้าทำงานที่นั่นได้
ธนสิทธิ์ มั่งสุข
ปัจจุบันทำงานตำแหน่งเภสัชกร กองเภสัชกรรม สำนักงานแพทย์ สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เล่าถึงความทรงจำเกี่ยวกับ มศว องครักษ์ มีสถานที่ให้พักใจ ไม่ว่าจะเป็นหอพระ ศาลาริมน้ำ วงเวียน ชาบู ขนม ตลอดระยะเวลาที่เรียนมามีกิจกรรมที่ประทับใจให้คิดถึง ไม่ว่าจะเป็นวันเปิดหอ วันลอยกระทง หรือ Freshmen night การใช้ชีวิตที่นี่ทำให้พวกเราได้ฝึกความอดทนอดกลั้น สามารถปรับตัวได้ง่าย หนักเอาเบาสู้ มีคติประจำใจคือ "คณะมหัศจรรย์ นั่งเรียนทั้งวันความรู้เท่าเดิม" แต่จะได้เพิ่มเติมจากการทบทวนและปฏิบัติงานจริงครับ ในอนาคตอยากเห็นการมีบทบาทและมีส่วนร่วมของวิชาชีพเภสัชกรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการทำงานเชิงกฎหมาย ด้านคลินิก ตลอดจนการได้รับการยอมรับและการเห็นถึงคุณค่าความสำคัญจากประชาชนในวงกว้าง อยากฝากให้รุ่นน้องวางแผนการใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเหมาะสม ทั้งด้านการเรียน ด้านกิจกรรม และด้านอื่นๆ ใช้ชีวิตอย่างตึงมาก อย่าหย่อนไป พยายามทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะอดีตนั้นเป็นบทเรียนที่สำคัญ ส่วนปัจจุบันเป็นรากฐานสู่อนาคต
ธาริณี เที่ยงสกุล
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรประจำร้านยา ประทับใจและขอขอบคุณคณะเภสัชศาสตร์ มศว ที่ได้ให้ความสำคัญกับการฝึกปฏิบัติงานจริงและเปิดโอกาสให้มีการฝึกปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ทำให้มีประสบการณ์ในการเจอเคสหลากหลาย อาจารย์ดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด สามารถสอบถามทั้งในเรื่องของวิชาการและปัญหาที่อาจพบระหว่างการปฏิบัติงาน ทำให้เมื่อมาทำงานจริงๆ มีความคุ้นเคยและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนได้ใช้ชีวิต ได้นอน ได้เล่น ได้เรียน ได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมายด้วยกัน การอยู่หอในทำให้มีเวลาใช้ชีวิตค่อนข้างเยอะ มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ทั้งวิ่ง เต้น แอโรบิก สุดท้ายอยากให้น้องๆ ให้ความสำคัญทั้งกับการเรียน และให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ เพราะที่นี่จะเป็นที่ที่เราสร้างประสบการณ์ที่จะเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีจริงๆ
เภสัชกรหญิง ภัทรมน หาญอนันทสุข
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทในเครือบัวขาว ซึ่งประกอบด้วยบริษัท บัวขาวสมุนไพร, บัวขาวเทรดดิ้ง และยังมีธุรกิจด้านอาหารที่กำลังก่อตั้งอยู่ ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการบำเพ็ญประโยชน์ ธุรกิจกำลังขยายประกอบกับการระบาดของ COVID-19 ทำให้ยอดขายมีสะดุดบ้าง เราได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาลูกค้าและลูกน้องของเราไว้ Mindset ในการทำงานคือการได้เจอคู่แข่งทำให้เราไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้ ต้องหาธุรกิจและลูกค้าเพิ่ม ทำให้ไอเดียเรามีมากขึ้น เรามีความสุขที่ได้ทำงาน จุนเจือครอบครัว ช่วยเหลือคนในพื้นที่ให้มีงานทำ ยึดคติที่ว่าถ้าเราไปได้ ลูกน้องเราก็จะไปได้เช่นกัน ภญ.ภัทรมนได้มอบเงินสนับสนุนการสร้างพื้นที่ co-working space ให้กับคณะเภสัชศาสตร์ เพราะคณะทำให้หนูมีวันนี้ อาจารย์สอนเต็มที่กับเรามากกว่าเงินเดือนที่ได้ รู้สึกประทับใจ ผศ.ดร. ณัฐพร อยู่ปาน อาจารย์ทุ่มเทให้กับลูกศิษย์มากๆ ถ้าเรามีโอกาสเราก็อยากตอบแทนสิ่งดีๆให้กับคณะ สุดท้ายนี้อยากฝากให้น้องตั้งใจในหน้าที่ของตนเอง ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ถึงแม้เราจะไม่ใช่คนฉลาด หรือเก่งที่สุด แต่ถ้าเราตั้งใจ ในที่สุดจะมีคนเห็นและให้โอกาสเรา
เภสัชกรหญิง เบญญาภา ตันตวาที
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรด้าน Clinical Research Associate (CRA) ของบริษั Syneos Health ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการบำเพ็ญประโยชน์ ขอบคุณเพื่อนๆที่เสนอชื่อ ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมเดินทางในทุกเส้นทางมาโดยตลอด ขอบคุณครอบครัวที่สนับสนุนอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เสมอๆ ในทุกจังหวะก้าว ทุกความล้มเหลวและความสำเร็จในชีวิตของแพรวประกอบกันอย่างลงตัว รอบล้อมไปด้วยบุคคลที่รักหลายคนมาก พูดตรงนี้คงจะมีที่ไม่พอค่ะ ยังไงก็รับคำนี้ไปเลยแล้วกันนะคะ “ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ” (ยิ้ม)
ช่วยเล่าถึงผลงานที่เรารู้สึกภาคภูมิใจ
การได้เป็นส่วนหนึ่งของชมรมเภสัชกรรุ่นใหม่ หรือ Thai Young Pharmacist Grow น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพ และคณะฯ ตั้งแต่ช่วงหลังจบฝึกงานปี 6 ตลอดมาเรื่อยๆ หลังเรียนจบค่ะ ชมรมเภสัชกรรุ่นใหม่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม ส่วนตัวแพรวถือว่าได้รู้จักตั้งแต่ตอนทำงานร่วมกันในสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทย (สนภท.) ค่ะ ที่ว่าเป็นกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม เพราะทุกคนเปิดกว้าง พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในทุกเรื่อง สำคัญคือการไม่เคยปฏิเสธว่าเรื่องไหนเป็นไปไม่ได้ แต่จะมารวมตัวกันคิดว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นไปได้อย่างไร โดยการรวมตัวของชมรม ก็ตั้งใจที่จะสร้างกิจกรรมเพื่อพัฒนาเภสัชกรรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ที่มีหัวใจอยากเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่หลากหลาย ผลงานที่ภูมิใจชิ้นหนึ่งคือโครงการปลุกปั้นความเปลี่ยนแปลง หรือ Hatch Changed ค่ะ เป็นโครงการที่เราร่วมออกแบบกิจกรรมกับน้องๆ และอาจารย์ เพื่อพัฒนาสโมสรนักศึกษาเภสัชศาสตร์หลายมหาวิทยาลัย เสมือนเป็นการติดอาวุธการบริหารจัดการชีวิตตนเอง ตลอดจนการบริหารงานกิจกรรมให้ลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ให้กับน้องๆ นอกจากโครงการนี้ก็มีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่สนใจก็สามารถติดตามได้ในเพจ Thai Young Pharmacist Grow นะคะ
ช่วยแชร์ประสบการณ์หรือวิธีคิดหรืออะไรในตัวเราที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
u เพราะชีวิตอาจจะสั้น การใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์จึงสำคัญที่สุด แพรวเคยหมดสติไปถึงสองครั้งในช่วงชีวิตที่ผ่านมา โอกาสที่ฟื้นกลับมาอีกครั้ง ทำให้ได้ทบทวน และเข้าใจความมีค่าของเวลา เชื่อว่าเราทุกคนเกิดมาด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง และเพื่อสร้างคุณค่าบางอย่างต่อตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง สังคม วิชาชีพ ฯลฯ อย่างแน่นอน ไม่สำคัญว่าเราจะต้องเป็นคนที่เก่งที่สุด หรือดีที่สุดในสังคมนั้น ๆ แต่การมีลมหายใจอย่างคุ้มค่า ได้ขอบคุณ ขอโทษ และได้รับคำขอบคุณจากผู้คนในหลายๆ สิ่งที่ทำ ในทุกวันที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้ทุกวันสามารถเป็นวันสุดท้ายของชีวิตได้ เป็นเป้าหมายเดียวในการใช้ชีวิตของแพรวค่ะ
u กลัวที่จะไม่ได้ลงมือทำ มากกว่ากลัวความล้มเหลว หลายครั้งที่เราอาจจะยังสงสัย สับสนในทางเลือก หรือไม่กล้าทำอะไร เรามักจะถามตัวเองเสมอ ๆ ว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ได้ตื่นขึ้นมา เราอยากทำอะไร หรือเลือกทางไหนในวันนี้ แล้วเราจะสบายใจในทางเลือกที่เราตัดสินใจทุกครั้งไป และรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดจริงๆ ในทุกจังหวะชีวิตค่ะ
u คิดและพูดความเป็นจริงเสมอ เปลี่ยนความโกรธและความเกลียดเป็นการชื่นชม แล้วเราจะมีความสุขอย่างพอดี อันนี้อาจจะดูธรรมะไปนิดนะคะ (หัวเราะ) เพราะคนทุกคนมีหลายด้าน ถ้าได้เวียนมาทำความรู้จัก อยู่ร่วมกันในวิชาชีพเดียวกัน หรือสังคมการทำงานเดียวกัน เลี่ยงยากมากที่เราจะไม่เจอกันอีกตลอดไปค่ะ (หัวเราะ) ในความแตกต่างที่เราไม่พอใจ ทุกคนมักจะมีจุดประทับใจบางอย่างให้เราได้เลือกชื่นชม การคิดและพูดความเป็นจริงเสมอ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่แพรวตั้งใจทำค่ะ การน้อมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง สื่อสารกับทุกคนบนพื้นฐานของความเข้าใจ และตั้งใจดี เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับความสำเร็จบนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรมที่เรามองย้อนกลับมาแล้วจะปลื้มใจค่ะ
สิ่งที่อยากเห็นต่อไปในอนาคตสำหรับคณะเภสัชศาสตร์หรือวิชาชีพ
แพรวเชื่อว่าการได้เห็นวิชาชีพของเราเป็นที่ยอมรับว่ามีความสำคัญจำเป็นต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไปเป็นหนึ่งในความฝันของเภสัชกรทุกคนค่ะ และแน่นอนว่าเราทุกคนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นในสักวันหนึ่ง ขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ อีกสิ่งหนึ่งที่เภสัชกรคู่ควร คือการเปิดรับการเรียนรู้ การปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย การพัฒนาตนเองในโลกใบเดิมด้วยวิธีการที่แตกต่าง หรือรับรู้ผ่านมุมมองที่แปลกใหม่ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อว่าเภสัชกรทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ จะสามารถปรับตัวในทุกโอกาสได้ดีและต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต
สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องหรือคณะ
ฝากถึงรุ่นน้องในยุคของความไม่แน่นอนทุกอย่างเปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา ทั้งสังคมรอบตัว และตัวเราเองเช่นกัน สิ่งที่พี่มักจะบอก คือ การรู้จักปรับตัว พร้อมรับกับทุกโอกาสและการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามา การทำกิจกรรมในคณะ หรือการพาตัวเองไปเจอเรื่องยากลำบาก และความท้าทายต่างๆ หรือการก้าวข้าม Comfort Zone ของตัวเอง ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ทั้งโดยเต็มใจและไม่เต็มใจ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ของการสร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกาย และจิตใจ ไม่ให้เราหวั่นไหว ตื่นตระหนก กับกระแสหรือความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ผ่านเข้ามา นั่นทำให้เราได้ฝึกฝนตัวเองจนสามารถปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้ในที่สุด
ฝากถึงคณะ ขอบคุณที่ดูแลนิสิตทุกคนและให้โอกาสนิสิตได้เติบโตในพื้นที่แห่งนี้ และต่อยอดเติบโตไปในชีวิตการทำงานในอนาคต เชื่อว่าทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่ทุกท่านต้องเผชิญกับความท้าทายภายใต้การเปลี่ยนแปลงมหาศาล เมื่อโลกเปลี่ยนผ่าน นิสิตเปลี่ยนรุ่น เชื่อว่าอุดมการณ์และความตั้งใจที่คงเดิมนั้นจะถูกสั่นคลอนอย่างหนักหน่วงขอให้เข้มแข็ง ตั้งมั่นในทุกอุดมการณ์และความตั้งใจของท่านต่อไป ด้วยความพลิ้วไหวพร้อมปรับเปลี่ยนนะคะ รูปแบบความคิด และวิธีการใหม่ๆ ที่เร่งด่วนและไม่ได้คุ้นชินกับทุกท่าน จะเป็นหนึ่งประตูเปิดกว้าง ให้นิสิตได้เรียนรู้ และเติบโต ไปในโลกใหม่ของพวกเขาได้เป็นอย่างดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านนะคะ ขอให้คณะของเราสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตราบเท่ากาลสมควรค่ะ
เภสัชกร วัชรณัฐ เต็มแป้น
ปัจจุบันเป็น Product manager ของบริษัท Novartis และยังทำหน้าที่เป็นประธานชมรมศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มศว ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นในด้านบำเพ็ญประโยชน์ อนาคตของชมรมอยากให้มีเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง ทีมทำงานมีกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นศูนย์รวมระหว่างคณะ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ให้เป็นหนึ่งเดียว ปีที่ผ่านมายังได้รับรางวัล Global Employer 2020 Award ซึ่งเป็นรางวัลเกี่ยวกับการบริหารองค์กรและการดูแลพนักงานดีเด่นด้วยหลักการของ Un-boss, Inspire, Curious และ Integrity การบริหารงานจะไม่มีหัวหน้า ทุกคนเท่าเทียมกันและสามารถช่วยเหลือและแชร์ข้อมูลร่วมกันในทุกด้าน การมีส่วนร่วมในกิจกรรม Happy Project, Happy Meal ยังเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจเพราะช่วยสร้างกำลังใจให้กับทีมทำงาน สุดท้ายวัชรณัฐอยากฝากมุมมองในการสร้างเด็กรุ่นใหม่ อย่าปิดกั้นความคิด ให้เค้าได้ลองผิดลองถูก และยอมรับความแตกต่างในตัวตนของแต่ละคน
เภสัชกร อรรณพ ภู่ประดิษฐ์
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรคลินิก หน่วยการแพทย์และเภสัชกรรม ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ รพ.รามาธิบดี ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการสร้างชื่อเสียง อยากขอบคุณคณะเภสัชศาสตร์ มศว ชมรมศิษย์เก่า และ SWU Rx 11 ที่ได้ให้โอกาสและหล่อหลอมให้ผมมีทักษะในการทำงาน ไม่ว่าเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชน การพัฒนางาน Routine to Research การสร้างนวัตกรรมและงานวิจัย เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยปลูกถ่ายไต สำหรับ Mindset ที่ผมใช้ในการทำงาน คือ “คนเราทุกคนเรียนรู้และพัฒนาได้เสมอ” ผมจบสาย Pharm sciences แต่ทำงานเป็นเภสัชกรคลินิกในโรงพยาบาล ช่วงแรกต้องใช้เวลาและความพยายามในการปรับตัว มองงานที่ได้รับเป็นสิ่งที่ได้รับความไว้ใจจากรุ่นพี่ ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง ความผิดพลาดถือเป็นบทเรียน มีความสุขกับงานที่เราทำและความสำเร็จจะตามมา สุดท้ายนี้อยากฝากให้คณะส่งเสริมให้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั้งในด้านการเรียนการสอน การดูแลคนไข้ การบริบาลทางเภสัชกรรม โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เภสัชกร ศิโรตม์ คชภูมิ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรฝ่ายประกันคุณภาพ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย รู้สึกขอบคุณและภูมิใจที่ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการสร้างชื่อเสียงให้กับคณะ เป็นประจำทุกปีที่ศิโรฒม์จะนำความรู้และประสบการณ์มาบรรยายให้กับรุ่นน้อง Mindset ที่ใช้ในการทำงานคือ การตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย แบ่งเวลาเพื่อใช้ชีวิตและทำงานอย่างสมดุล มองอุปสรรคเป็นความท้าทายที่ช่วยพัฒนาเรา สุดท้ายอยากฝากถึงรุ่นน้องให้ขยัน อดทน กล้าตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็น รู้จักแบ่งเวลาทั้งการเรียนและกิจกรรม หมั่นแสวงหาความรู้ให้ครบทุกด้าน รวมถึงฝากให้คณะและวิชาชีพหมั่นพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย ร่วมช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเผชิญให้บรรเทาลง
เภสัชกรหญิง อาสาฬา เชาวน์เจริญ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการสร้างชื่อเสียงให้กับคณะ รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับทีมแพทย์ในการทำงานคลินิกกัญชาทางการแพทย์และมีโอกาสเป็นตัวแทนให้ความรู้กับประชาชนผ่านสื่อเกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพร มุมมองในการทำงานคือเราต้องความตั้งใจและรู้จักปรับตัวในการทำงานร่วมกับผู้อื่น สิ่งที่ภูมิใจคือการได้ช่วยเหลือประชาชนบวกกับการมีทักษะการสื่อสาร ยุคนี้ความรู้สามารถหาได้ในอินเตอร์เน็ต แต่ทักษะการสื่อสาร การประมวลผล และการมองเห็นภาพรวมของปัญหา น่าจะเป็นสิ่งที่แตกต่างของความเป็นวิชาชีพ อยากฝากรุ่นน้องให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทักษะที่เราได้เรียนรู้ในช่วงเวลานี้จะช่วยให้เราจบออกมาและเป็นคนทำงานได้ ทำงานเป็น ถ้ามีโอกาสก็อยากให้น้องๆ ได้ลองเรียนรู้ความรู้แขนงอื่นๆที่เราสนใจ เช่น สุขภาพ กีฬา ธรรมะ
เภสัชกร เวสารัช จิตติวรรณ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกร 6 หน่วยบริบาลเภสัชกรรม กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการสร้างชื่อเสียง ทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตทำให้ผมได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ผมได้รับจดหมายขอบคุณจากญาติของคุณลุงบนหอผู้ป่วยผ่าตัดกระดูกสันหลัง ที่มีภาวะกรดยูริคสูงและมีโรคไตเรื้อรัง ผมรู้สึกภูมิใจที่ความตั้งใจและความปรารถนาดีสามารถส่งผ่านไปถึงคนไข้ได้จริงๆ สิ่งที่ผมพยายามสร้างให้เกิดขึ้นทุกวัน คือการทำให้คนไข้รู้สึกว่าอย่างน้อยวันนี้เขาก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นคือการที่ได้มาเจอกับเรา ผมมี Mindset ในการทำงานคือ ยอมรับในความไม่รู้ของตนเองหรือยอมรับในความแตกต่างของคนอื่น เพื่อให้การทำงานมีพลังบวก เกิดความเข้าใจและสอดประสานกัน สุดท้ายนี้อยากฝากท่อนหนึ่งของเพลงมาร์ช ศรีนครินทร์ที่ว่า “เรามีหน้าที่เพื่อชาติ ศึกษาศิลป์ศาสตร์ รับใช้สยาม” น้องๆต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ ทักษะเกิดจากการลงมือทำ การเรียนรู้จะสมบูรณ์เมื่อนำความรู้มาลงมือทำซ้ำ ผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ที่ตัวเรา แต่คือการนำความรู้นั้นมาพัฒนาประเทศชาติของเราด้วยนั่นเอง
เภสัชกร จิรายุตม์ บุญญพิเชษฐ
ปัจจุบันเป็นเภสัชกรฝ่ายผลิตของ Thai Meiji Pharmaceutical Co.,Ltd. ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการบำเพ็ญประโยชน์ ส่วนตัวไม่คิดว่าจะได้รับการเสนอชื่อพอได้ข่าวครั้งแรกก็รู้สึกดีใจครับ หลังจบการศึกษาได้มีโอกาสสอนน้องๆทางด้านเภสัชอุตสาหการ รู้สึกภูมิใจตอนที่น้องๆสอบผ่านแล้วมาบอกว่า ขอบคุณที่ติวให้เป็นความภาคภูมิใจเล็กๆของคนสอนครับ Mindset ในการทำงานคืออย่าหยุดอยู่กับที่ เริ่มต้นที่ตัวเองและอย่าโทษคนอื่น ในอนาคตอยากให้คณะเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น อยากให้รุ่นน้องโฟกัสที่หน้าที่ของตนเอง รู้จักวางแผนอนาคต ใช้เวลาให้คุ้มค่า หกปีที่คณะไม่ได้นานเลย ค้นหาตัวเองให้เจอไวๆครับ
เภสัชกร สมสิน สุจิตตานนท์รัตน์
ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านยาเภสัชกรสมสินและกรรมการชมรมศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มศว รู้สึกดีใจและยินดีมากๆที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้านการบำเพ็ญประโยชน์ Mindset ที่ใช้ในการทำงานคือมุ่งมั่นกับงานที่ได้รับ เรียนรู้จากข้อผิดพลาด รู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิตอล ช่วงเวลาที่ใช้ในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาที่มีค่า อยากฝากให้รุ่นน้องแบ่งเวลาทั้งด้านการเรียนและการทำกิจกรรม ที่สำคัญที่สุดค้นหาตัวเองว่าชอบอะไรและอยากจะทำอะไรในอนาคต
Natruedee Potiwat
Senior Lecturer in Clinical Science, De Montfort University
I have several fond memories during my undergraduate degree at SWU. Despite the mosquitoes population and only two 7/11, life at Ongkarak campus was delightful and it was where I made friends for life. Staff at School of Pharmacy were extremely supportive -they are approachable and helpful. They definitely put students' interests at the heart of their teaching. In addition to academic knowledge, I worked hard to improve my English skills to prepare myself for an opportunity abroad. If you would like to work abroad, you should spend sometimes in your chosen country/destination i.e. where you would like to work. Working in the UK in my opinion, the structure in the organisation focuses on individual's abilities and capability, rather than the age and experience. Also, you can always speak your mind as long as you do it respectfully/politely. Time, funding and English skills. I would like you to ask yourself the following questions (1) which subject/area of your undergraduate degree do you like the most? (2) where do you want to study? (3) what are the courses being offered and (4) after your postgraduate degree, do you see yourself working in Thailand or abroad? Once you know where you are heading, the next step is to prepare your English skills and your application. Although the future path might be bumpy or might not be a direct one, as long as you do not give up you will definitely reach your goal(s).
เภสัชกรหญิง ณัฏฐ์ปภาณ ต้นตระหนักวงศ์
Pharmacy technician
คณะเภสัชศาสตร์ มศว เป็นสถานที่ที่บ่มเพาะวิชาการ จริยธรรม และลักษณะนิสัยที่ดี หากน้องๆอยากมาทำงานต่างประเทศควรเรียนภาษาอังกฤษแต่เนิ่นและมีความมั่นใจในตัวเอง ทุกคนสามารถมาทำงานที่ต่างประเทศได้ศึกษาลักษณะของแต่ละประเทศ เลือกประเทศที่อยากจะไปใช้ชีวิต แล้วก็ศึกษาวัฒนธรรมของประชากรในเมืองที่จะไปศึกษา รวมถึงขยันศึกษาเรื่องวิชาการและด้านภาษา
เภสัชกรหญิง ณัฐพร มงคลเคหา
Staff pharmacist
สมัยนั้นที่องครักษ์ไม่มีอะไรเลยค่ะ internet ก็ไม่มี ทรมานมากจะเล่นเกมส์ออนไลน์ก็ไม่ได้ ยุงตัวใหญ่มาก และจิ้งจกเยอะมาก เป็นคนไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ค่ะเลยจำเรื่องเรียนไม่ค่อยได้ แต่การไปอยู่องค์รักษ์เป็นครั้งแรกที่ได้ห่างจากบ้านเลยได้เรียนรู้การที่ต้องทำอะไรเอง การต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เลยทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะที่บ้านคือเข้มงวดมาก การได้มาอยู่หอรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่เป็นอิสระ สนุกดี หากน้องๆอยากมาทำงานต่างประเทศต้องเตรียมตัวเรียนภาษาอังกฤษ ศึกษาข้อมูลของเมืองต่างๆในอเมริกา เรื่องค่าใช้จ่ายและชีวิตความเป็นอยู่ แต่ละรัฐคนก็จะแตกต่างกันและเก็บเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นค่าลงทะเบียนเรียนและค่าใช้จ่ายในช่วงแรกๆ รู้สึกว่าชอบ lifestyle และคุณภาพชีวิตของคนอเมริกัน มีอิสระ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบอยู่ในกรอบความคิดของคนไทย และการบริหารจัดการของรัฐบาลประเทศไทย ระบบการทำงานของที่นี่ต่างจากที่ประเทศไทยมาก ที่นี่เภสัชกรร้านยาเหมือนเภสัชกรโรงพยาบาล คือเตรียมใบสั่งยาตามที่หมอส่งมาพ่วงด้วยต้องฉีดยา immunization ไม่ได้แค่หยิบยาตามที่คนไข้ต้องการเหมือนที่เมืองไทย ยาที่อยู่ใน pharmacy behind the counter ทั้งหมดต้องใช้ใบสั่งยา (ส่วนยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ลูกค้าก็สามารถหยิบไปจ่ายเงินได้เลย) นอกจากนี้ต้องทำการเคลม insurance ให้กับลูกค้าาด้วยเพราะที่อเมริกาถ้าไม่มีประกันค่ายาแพงมาก chain pharmacy จึงต้องให้เราทำยอดเยอะๆ เพราะบริษัทจะทำกำไรจากจำนวน prescription ที่ทำเคลมกับ insurance
ที่นี่งานมีความกดดันสูงมาก ต้องเร็ว multitask ตลอดเวลา วิ่ง 4x100 อยู่ใน pharmacy รับโทรศัพท์ เช็คยา ฉีดยา counseling เป็น cashier ด้วย และทุกอย่างมีการจับเวลาหมดจึงต้องรีบมาก เภสัชกรที่นี่ไม่ได้นั่งเช็คยาสวย หากน้องๆอยากมาทำงานที่ภาษาคืออันดับหนึ่งเพราะว่าเวลาที่เราทำงานจริงๆ ภาษาอังกฤษคือจะไม่เหมือนที่เราเรียนมา ต้องพูดแบบ native speaker นอกจากแปลไทยเป็นอังกฤษ ยังต้องแปลภาษาอังกฤษศัพท์ทางแพทย์ให้เป็นภาษาชาวบ้าน และฝรั่งแต่ละวัยแต่ละรัฐการพูดก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการจะได้ทำงานที่นี่เราควรมาใช้ชีวิตที่นี่ก่อนในระดับนึงเพราะฉะนั้นโอกาสน้อยมากที่จะจบเภสัชที่ไทยแล้วจะได้เป็นเภสัชที่นี่เลย ถึงแม้จะมีวีซ่าทำงานแล้วก็ตาม ถ้าน้องมุ่งมั่นว่าอยากมาแน่ๆ ให้รีบเรียนและสอบ TOEFL สมัยนี้มีเรียนออนไลน์ราคาไม่แพง ให้เรียนกับชาวอเมริกันและถ้ามีโอกาสให้สมัครโครงการเช่น work and travel จะช่วยในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน และได้เลข social security ด้วย นอกจากนี้ ให้เริ่มเก็บเงินอย่าใช้ฟุ่มเฟือย อีกอย่างนึงที่สำคัญคือต้องมี mind set ที่ว่าจะต้องเป็นคนยืดหยุ่น อดทนต่อความยากลำบาก และปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ แรกๆมาพี่ทำหมดงานเสิร์ฟอาหาร งานในครัว งานอะไรก็ได้ที่เค้าให้เราทำ การอยู่ต่างประเทศถึงเรามีเพื่อนมีครอบครัวก็จริงแต่มันก็เหงาค่ะ เหงามากๆบอกไม่ถูก บางครั้งก็เหนื่อยใจ ตอนนี้ถึงเป็นเภสัชแล้วก็อยากลาออกเหมือนกัน (งานหนักมากๆ) แต่ต้องอย่าลืมว่าอะไรที่ทำให้เราเริ่มต้นเดินเส้นทางนี้ สู้ๆค่ะ
เภสัชกรหญิง ณัฐรี สมบูรณ์สุข
Pharmacist in charge
สำหรับการเรียนที่มศว องครักษ์ ประทับใจคณะอาจารย์ ผู้ช่วย พี่น้องชาวมศว และบรรยากาศที่คณะ ได้อยู่หอร่วมกับเพื่อนๆ ตอนเย็นปั่นจักรยานเล่นทั่วมหาวิทยาลัย หากน้องๆอยากมาทำงานต่างประเทศ ควรเตรียมเอกสารและเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ TOEFL-iBT, FPGEE, MJPE, NAPLEX
นอกจากนี้ การทำงานที่สหรัฐอเมริกายังต้องมีเรื่องของ VISA และ citizenship เภสัชกรควรใช้ภาษาได้คล่องแคล่วเหมือน native speaker หากมีญาติ/เพื่อนช่วยเหลือในช่วงแรกที่ต่างประเทศจะดีมาก หากเปรียบเทียบการทำงานในไทยกับต่างประเทศ วิชาชีพเภสัชกรที่ต่างประเทศทำงานหนักมาก สวัสดิการคุ้มครองรักษาพยาบาลที่ต่างประเทศต้องจ่ายเบี้ยประกันสูง ในประเทศไทยสวัสดิการดีกว่ามาก รายได้ที่ต่างกระเทศต้องเสียภาษีประมาณครึ่งนึงของรายได้ (ไม่ได้คืนปลายปี ส่วนมากต้องเสียเพิ่ม) เพื่อนร่วมงานต่างประเทศส่วนมากขี้เกียจทำงาน เราต้องทำงานเพิ่มเท่าตัวเพื่อแบกภาระเพื่อนร่วมงาน อุปสรรคของการมาทำงานที่นี่คือภาษาต้องเป๊ะ ส่วนใหญ่ตายรังที่ TOEFL นอกจากนี้ยังต้องทำงานเลี้ยงชีพตัวเองขณะเตรียมสอบ พยายามหาทุนเรียน เพราะค่าเรียน international rate สูงมาก สุดท้ายฝากถึงน้องๆที่อยากมาเรียน/ทำงานต่างประเทศต้องเตรียมดิ้นรน ทำงาน มุมานะ และมาตายดาบหน้าได้ค่ะ
เภสัชกรหญิง สุรัติวดี ละครวงษ์
San Francisco, CA
สิ่งที่นึกถึงความทรงจำและความประทับใจต่อคณะเภสัชศาสตร์ มศว คือ ความกลมเกลียวของเพื่อนๆในคณะ รวมถึงการช่วยเหลือกันทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องของเด็ก หากน้องๆอยากมาทำงานเป็นเภสัชกรที่ต่างประเทศควรวางแผนและเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษให้ดี ถ้าน้องๆมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน อย่ากลัวที่จะทำตามความฝันค่ะ
เภสัชกร แสงเสน่ห์ หาญอุดมลาภ
Graduate student - the International Orientation Peer Advisor
สายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องของคณะเภสัชศาสตร์ มศว มีอะไรก็จะคอยช่วยเหลือกันตลอด ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องของการทำงาน รวมถึงอาจารย์ที่จัดกิจกรรมดีให้กับนิสิตอยู่ตลอดเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับผมตลอดมา เนื่องจากต่อทำงานได้ทำงานด้านสายการตลาดมาโดยตลอด เลยสนใจงานทางด้าน Analysis เลยศึกษาหาข้อมูลหลักสูตรแล้วโอกาสในการทำงานในอนาคต จนตัดสินใจเรียนต่อ Data Science ขั้นแรกก็ต้องเตรียมตัวในเรื่องของภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมสอบ TOEFL หลังจากนั้นก็เตรียมความพร้อมในด้านเงินเพราะการเรียนต่อต่างประเทศค่าใช้จ่ายสูงมากครับ และตอนนี้ก็เป็นนักเรียน ป.โท ปีที่ 2 ครับ ส่วนตัวเป็นคนชอบเดินทางไปในที่ต่างๆทั่วโลก และรู้สึกชอบวัฒนธรรม รวมถึงแนวคิดเวลาได้ทำงานร่วมกันชาติอื่นๆ ตอนสมัยทำงานเป็น Product Specialist ของบริษัทยาข้ามชาติ ก็รู้สึกอยากลองใช้ชีวิตต่างประเทศ เลยอยากจะมาศึกษาต่อที่อเมริกา และพอได้มาใช้ชีวิตต่างประเทศก็รู้สึกว่าชอบมากครับ ทั้งในเรื่องของการศึกษาและการใช้ชีวิต ขอเล่าในส่วนของนักเรียน นักเรียนต่างชาติสามารถสมัครงานในมหาวิทยาลัยได้ครับ งานหนักเบาขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน ส่วนแก๊ปเองเป็น International Orientation Peer Advisor ก็จะมีงานเยอะหน่อยช่วงเปิดเทอม เพราะต้องจัดอีเว้น คล้ายๆปฐมนิเทศที่ไทยครับ แต่รูปแบบก็จะต่างกันเยอะพอสมควร ค่าชั่วโมงดีเลยครับ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวไปได้เยอะ งานในมหาวิทยาลัยสัมภาษณ์จริงจังเหมือนตำแหน่ง Professional ต้องเตรียมตัวให้พร้อม นอกจากนี้ยังสามารถหา Internship ฝึกงานช่วงปิดเทอมได้ด้วยครับ สำหรับการเรียนที่เหมือนไทยค่อนข้างต่างจากการเรียนที่อเมริกาครับ แต่ไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆแน่นอน คะแนน TOEFL พยายามทำให้ได้คะแนนดีในทุกทักษะ เตรียมความพร้อมทางด้านภาษาอังกฤษ ถ้ามีเวลาก็เตรียมตัวได้ตั้งแต่ต้องเรียนมหาวิทยาลัย อย่างน้อยก็เตรียมเพื่อการทำงาน แต่ใครตั้งใจจะศึกษาต่อต่างประเทศก็ต้องเตรียมตัวเองให้เข้มข้นเลยครับ TOEFL เป็นเหมือนใบเบิกทางสู่การเรียนต่อ ถ้าได้คะแนนสูงโอกาสได้ทุนก็สูงตาม อีกอันหนึ่งคือความพร้อมด้านการเงินควรที่จะมีเพียงพอสำหรับตลอดการเรียน ค่าเทอม ค่าที่พัก ค่าอาหาร ก็จะพอรู้ว่าควรจะมีเงินสำรองประมาณเท่าไร สุดท้ายนี้ คิดถึงอาจารย์ทุกคนครับ ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความรู้ ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน คิดถึงคณะครับ คิดถึงการอยู่กับเพื่อนๆ อยากให้น้องๆใช้เวลาที่ทีคณะให้คุ้มค่า เต็มที่ไปกับการเรียน และมีเวลาดีๆกับเพื่อนๆ พยายามฝึกฝนทักษะต่างๆ โดยเฉพาะสาขาที่เราสนใจและอยากที่จะทำหลังเรียนจบ ขอให้น้องๆประสบความสำเร็จให้สิ่งที่หวังครับ
ศิษย์เก่าดีเด่นด้านการสร้างชื่อเสียง ผศ.ดร.ภก. ถนอมพงษ์ เสถียรลัคนา (ปีการศึกษา 2565)
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม รู้สึกภูมิใจที่ได้รับรางวัล และขอบคุณคณะเภสัชศาสตร์ มศว ที่ได้สั่งสอนและหล่อหลอมให้เป็นตัวเราในวันนี้ พร้อมกับรู้สึกว่าต้องพัฒนาตนเองต่อไป ตนเองได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นอาจารย์และวิทยากรที่ให้ความรู้ทั้งนิสิต นักศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์ ในสหสาขาวิชาทั้งเภสัชกร จิตแพทย์ แพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์ และพยาบาล เป็นอาจารย์พิเศษประจำหลักสูตรอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์ และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์แก่แพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา รวมถึงการเป็นประธานวิชาการของวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย วาระที่ 7 (2565-2567) แง่คิดที่ตนเองประยุกต์ใช้มาตลอดคือความพยายามฝึกตนเองให้มีแนวคิดแบบ growth mindset และเชื่อว่าเราสามารถพัฒนาทักษะและความรู้ด้านต่างๆ ได้ พยายามเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฝึกการพัฒนาตนเองด้านอารมณ์ ความคิดและจิตใจ ทั้งหมดนี้ก็คิดว่าตนเองยังต้องฝึกฝนอีกมากๆ ในอนาคตอยากเห็นวิชาชีพมีความมั่นคง มีการผลิตเภสัชกรเพื่อรับใช้สังคม สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้อง พยายามตั้งใจเรียนพร้อมกับเรียนรู้อย่างมีความสุข ขอขอบพระคุณคณาจารย์และบุคลากรทุกท่านของคณะเภสัชศาสตร์ มศว ที่ช่วยสั่งสอนและปลูกฝังแนวคิดการทำงานให้กับผม ขอเป็นกำลังใจให้คณาจารย์และบุคลากรทุกท่านที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกศิษย์ทุกๆ คน คิดว่าต่อไปในอนาคต การเรียนการสอนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามบริบทและยุคสมัย ซึ่งเชื่อมั่นได้เลยว่าคณะเภสัชศาสตร์ มศว จะมีทิศทางที่ดีสอดคล้องกับบริบทยุคสมัยนั้นๆ เสมอ
ศิษย์เก่าดีเด่นด้านการบำเพ็ญประโยชน์ ภก. วิศวะ มาเดช (ปีการศึกษา 2565)
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยจ่ายยาผู้ป่วยนอก ร.พ.ศูนย์การแพทย์ สมเด็จพระเทพฯ ความรู้สึกเมื่อได้รับรางวัลดีคือดีใจและภูมิใจ ทำให้มีกำลังใจในการทำสิ่งที่ดีต่อไป ตนเองได้มีโอกาสติวการสอบใบประกอบวิชาชีพให้น้องๆ คณะเภสัชศาสตร์ มศว ทุกปี มีโอกาสได้พัฒนาระบบงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับหน่วยจ่ายยาผู้ป่วยนอก และได้รับคัดเลือกให้ได้รางวัลชนะเลิศด้านการสร้างนวัตกรรม ของ ร.พ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ แง่คิดที่ตนเองประยุกต์ในการทำงานเสมอมาคือจงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆหรือเพื่อนร่วมวิชาชีพทุกคนคืออยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าในวิชาชีพตัวเอง ไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนเรา ในอนาคตอยากให้น้องๆมีความภาคภูมิใจที่ได้มาเป็นเภสัชกรและใช้เวลาในรั้วมหาลัยให้คุ้มค่าที่สุด
ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อศิษย์เก่าดีเด่น
ศิโรตม์ คชภูมิ (ปีการศึกษา 2565)
ปัจจุบันเป็นเภสัชกร 6 ฝ่ายประกันคุณภาพ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย รู้สึกภูมิใจและดีใจที่คณะเล็งเห็นว่าสิ่งที่เราทำเป็นการสร้างและนำชื่อเสียงมาสู่คณะจนทำให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่น รู้สึกภูมิใจในทุกงานที่ได้ทำทั้งการเป็นอาจารย์พิเศษ การมอบทุนการศึกษา เป็นอาจารย์ประจำเป็นแหล่งฝึก รวมถึงการเป็นคณะกรรมการในชมรมศิษย์เก่า แนวคิดที่ใช้เสมอในการทำงาน คือ งานทุกชิ้นจะมีชื่อของเราอยู่เสมอเพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่สุด ในอนาคตอยากเห็นเภสัชกรที่มีความแข็งแรงในจรรยาบรรณวิชาชีพและพร้อมจะช่วยกันพัฒนาวิชาชีพต่อไป สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องที่ยังเป็นนิสิตคือชีวิตการทำงานต้องใช้การปรับตัวอีกเยอะจะต้องมี hard skills ควบคู่กับ soft skills
ภก. สมสิน สุจิตตานนท์รัตน์ (ปีการศึกษา 2565)
ปัจจุบันเป็นประธานบริษัท สมสินเภสัช จำกัด ตนเองดีใจและภูมิใจที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ตนเองพยายามผลักดันให้ร้านยาเภสัชกรสมสินเป็นที่พึ่งของชุมชนในการช่วยดูแลการใช้ยาในชุมชน สิ่งที่ตนเองยึดถือมาโดยตลอด คือ การทำงานหนัก การมี idol เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ได้ทำงานกับหัวหน้าที่ดี ในอนาคตอยากให้เภสัชกรสามารถปรับตัวต่อระบบยาในอนาคตได้ สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องคือการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว ใช้เวลาในช่วงนี้ให้คุ้มค่า เชื่อพี่อีกซัก 20 ปีต่อจากนี้น้องๆจะคิดถึงช่วงเวลานี้ นอกจากนี้อยากให้น้องๆโฟกัสว่าเราอยากจะเป็นอะไร เภสัชกรมีหลายบทบาทหน้าที่ แต่ละหน้าที่ต้องใช้ทักษะที่หลากหลาย ใช้เวลาช่วงนี้หาตัวเองทำเพื่ออนาคตตัวเอง
ภก. ธรรมรินทร์ แสงอรุณ (ปีการศึกษา 2565)
ปัจจุบันเป็นอาจารย์ สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มศว รู้สึกภูมิใจที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิษย์เก่าดีเด่นและได้รับพระราชทานรางวัลบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 ของมูลนิธิมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก สำหรับตนเองพยายามตอบรับทุกๆโอกาสที่เข้ามา แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมหรืองานที่เราไม่ถนัด เพราะประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ได้รับหลังจากทำงานเหล่านั้นจะช่วยพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อยากให้บทบาททางวิชาชีพมีความความชัดเจนและมีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้อยากให้รุ่นน้องตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้พื้นฐานในคณะให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปใช้ต่อยอดความรู้อื่นๆที่จะได้รับหลังจากจบออกไป